นายสมชาย คุลีเมฆิน กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ (GC) คาดว่า ปี 51 บริษัทจะสามารถเพิ่มอัตรากำไรสุทธิได้กว่า 3.5% สูงกว่าในปี 50 ที่มีอัตราอยู่ที่ 3.14% และรายได้ในปี 51 จะเพิ่มเป็น 3.8 พันล้านบาทจากปีก่อนที่มี 3.45 พันล้านบาท
เนื่องจากบริษัทสามารถขายผลิตภัณฑ์ในส่วนเคมีภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับวิศวกรรมและเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ได้เพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าในปี 51 จะเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็นประมาณ 40% จากปีก่อนที่มีสัดส่วน 36% ของรายได้ ส่วนรายได้จากเคมีภัณฑ์เกรดปกติ ที่ใช้กับสินค้าโภคภัณฑ์จะลดสัดส่วนลงไปเหลือต่ำกว่า 60% จากปีก่อนมีสัดส่วน 64% เป็นเพราะสินค้าดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ เพียงประมาณ 3%
"เราก็พยายามเพิ่มสัดส่วนการขายของเคมีภัณฑ์เกรดพิเศษ และที่ใช้ในงานวิศวกรรม เพื่อจะทำให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้าว่าจะต้องเกิน 3.5% จากปีก่อนที่ตั้งเป้าว่าจะเกิน 3% ก็สามารถทำได้ 3.14%" นายสมชาย กล่าว
รวมทั้ง บริษัทมั่นใจว่าจะทำกำไรสุทธิมากกว่าปีก่อน ที่จะทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลงวดปี 51 จะจ่ายได้มากกว่างวดปี 50 ที่จ่ายในอัตรา 0.40 บาทต่อหุ้น
นายสมชาย กล่าวว่า การจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูง บริษัทต้องการเป็นหุ้นที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนและต้องการให้มีการซื้อขายหุ้นของบริษัทเพิ่มมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา หุ้นของบริษัทไม่ค่อยมีการซื้อขาย และราคาหุ้นที่ซื้อขายกันต่ำกว่า 4 บาทต่อหุ้น ซึ่งไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง และไม่ได้เกิดมาจากปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่นักลงทุนไม่ค่อยมีการเสนอซื้อขายกัน
สำหรับภาพรวมธุรกิจเคมีภัณฑ์ เชื่อว่าปีนี้เศรษฐกิจของประเทศจะเริ่มฟื้นตัว และกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท อาทิ ผู้ผลิตปิโตรเคมี กลุ่มยายนต์ กลุ่มบรรจุภัณฑ์ ที่ยังมีโอกาสเติบโตสูง ดังนั้นคาดว่าความต้องการใช้ยังเติบโตสูงกว่าจีดีพีของประเทศ 1-1.5 เท่า
นอกจากนี้บริษัทมีการกู้เงินระยะสั้น จำนวน 19.9 ล้านบาท เพื่อชำระเงินกู้ระยะยาว เพราะมองว่าอายุเงินกู้ระยะสั้นสอดคล้องกับธุรกิจที่มีลักษณะซื้อมาขายไปมากกว่า ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินทั้งหมดจำนวน ประมาณ 300 ล้านบาท โดยอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.58 เท่า ซึ่งบริษัทพยายามจะลดอัตราส่วนดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้เคยขึ้นไปสูงถึงเกือบ 3 เท่า
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/เสาวลักษณ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--