บลจ.กรุงศรี เชียร์ลงทุนหุ้น A-share ผ่านกองทุน KFACHINA-A หลังสงครามการค้าจีน-สหรัฐผ่อนคลาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 21, 2020 17:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ.กรุงศรี กล่าวในงานสัมมนา "Riding High in China with the Top China Fund"ว่า การลงทุนในจีนยังมีความน่าสนใจ หลังจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนก็เริ่มคลี่คลายดีขึ้น ซึ่งจีนก็มีการดำเนินนโยบายเพื่อชดเชยความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการค้า เช่น การผ่อนคลายนโยบายการเงิน เพื่อให้มีสภาพคล่องที่เพียงพอในเศรษฐกิจ, ประกาศลดการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในบางกลุ่ม เพื่อให้คนออกมาใช้จ่ายมากขึ้น, การผ่อนปลนกฎระเบียบต่างๆ เปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาถือครองหุ้นได้มากขึ้น และสนับสนุนให้บริษัทจีนเปิดตัวเองมากขึ้น รวมถึงในแง่ของรัฐบาลเองก็มีการทำการค้ากับประเทศอื่นๆ นอกเหนืองจากสหรัฐฯ มากขึ้นด้วย เพื่อกระจายความเสี่ยง ทำให้เศรษฐกิจมีความสมดุลมากขึ้น อีกทั้งการดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติเข้ามา

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่ารัฐบาลจีนเข้ามาลดความร้อนแรงของการปล่อยสินเชื่อในภาคเศรษฐกิจจีน โดยมองว่าเป็นการลดความร้อนแรงแบบมีเป้าหมาย และถูกเวลา ทำให้ระยะเวลาหลังจากนี้ ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยพยุงเศรษฐกิจจีนให้เติบโตในระดับที่มีเสถียรภาพ ดังนั้นจึงอยากแนะนำลงทุนในหุ้น A- share เนื่องจาก Valuation ไม่แพง เทรด P/E ที่ 13 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และต่ำกว่าตลาดพัฒนาแล้ว และ Emerging Market

"ทำไมเราถึงแนะนำให้ลงทุนใน A-share ก็เพราะว่าเป็นตลาดที่มีบริษัทที่อยู่ใน New economy ค่อนข้างมาก ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะอยู่ในเซี่ยงไฮ้ กับเซินเจิ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ของอุปโภคบริโภค ยา หรือประกัน ซึ่งนอกเหนือจากเรื่อง fundamental อีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นบวกอย่างมากคือ เรื่องของสัดส่วนการถือครองต่างชาติอยู่เพียง 7-8% โดยจีนก็มีการยกมาตรฐานของตัวเองให้สากลมากขึ้น และเปิดให้คนต่างชาติเข้าไปซื้อขายได้มากขึ้น ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าไปใน A-share มากขึ้น และในปีนี้ก็จะมีการเปิดเผยข้อมูลให้โปร่งใสมากขึ้นด้วย ขณะเดียวกันมาเก็ตแคปของเซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น คิดเป็น 1 ใน 10 ของโลกทั้งคู่ และถ้ารวมเป็น A-share คืออันดับสองรองจากอเมริกา "

ทั้งนี้ บลจ.กรุงศรี แนะนำการลงทุนกับกองทุน KFACHINA-A ที่สามารถสร้างผลการดำเนินงานอยู่ที่ 51.32% สูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุนหุ้นจีน Greater China Equity และสูงกว่า Benchmark เกือบเท่าตัว (Benchmark = 26.15%) ในปีที่ผ่านมา

ด้านนางสาววิเวียน อึ้ง ผู้อำนวยการและผู้เชี่ยวชาญด้านการการลงทุนตราสารทุน ตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก และตลาดเอเซียแปซิฟิค ยูบีเอส แอสเซท แมเนจเม้นท์ กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนยังมีโอกาสเติบโตได้ ซึ่งการลงทุนในจีนยังโฟกัส 4 ธีมหลัก และเน้นการลงทุนในระยะยาว 10 ปี เช่น การบริโภค เนื่องจากจีนกล้าที่จะบริโภคของแพงมากขึ้น, นวัตกรรมและเทคโนโลยี ลงทุนในบริษัทที่มีการลงทุนดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง, ความเป็นเมือง โดยเน้นในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ และสังคมผู้สูงอายุ เน้นหาหุ้นเฮลธ์แคร์ รวมถึงยา ที่เกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ