นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ปัจจุยบวกที่จะเข้ามากระตุ้นการลงทุนในขณะนี้น่าจะเป็นปัจจัยในประเทศมากกว่า เพราะปัจจัยต่างประเทศยังมีข่าวร้ายอีกมาก
สำหรับปัจจัยในประเทศที่สำคัญในขณะนี้ คือ รัฐบาลยังคงจะผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีในระยะยาว และยังมีการคาดเดาเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในประเทศ ที่ยังมีความไม่ชัดเจนว่าจะลดลงหรือไม่ เพราะอัตราเงินเฟ้อเดือนล่าสุดเพิ่มสูงมาก แม้ว่าจะมีหลายฝ่ายบอกว่าการใช้ดอกเบี้ยดูแลเงินเฟ้ออาจไม่ได้ผล เพราะเงินเฟ้อเกิดจาก cost push แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ก็ยังต้องใช้ความระมัดระวัง
นอกจากนั้น ยังจะต้องติดตามสถานการณ์ทางการเมืองต่อไป เพราะยังมีโอกาสที่จะเกิดคดียุบพรรคการเมืองรออยู่
นายสมบัติ กล่าวว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่าการยกเลิกมาตรการสำรอง 30% ส่งผลดีต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์ แต่เนื่องจากมีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้าประมาณ 1 เดือนแล้ว ทำให้เมื่อมีการประกาศยกเลิกมาตรการจริงดัชนีตลาดหุ้นไทยจึงไม่ได้ตอบรับเท่าใดนัก เพราะรับรู้ข่าวไปหมดแล้ว
ส่วนดัชนี SET มีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงต่ำกว่าระดับ 800 จุดหรือไม่ให้ยังต้องติดตามดูปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ หรือ ปัญหาซับไพร์ม และการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
“ปัจจัยการเมืองยังเป็นเรื่องสำคัญสุดที่จะต้องจับตาดู เพราะสามารถให้ผลบวกหรือลบได้ แม้ว่าการดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่องก็น่าจะช่วยกระตุ้นการลงทุนได้ แต่หากคดีต่างๆที่มี นำไปถึงการยุบพรรคก็น่าจะเป็นเรื่องใหญ่"นายสมบัติกล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย ตลฦ/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--