ANAN มองตลาดอสังหาฯปีนี้ฟื้นตัว ขานรับมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ-ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ,ดอกเบี้ยต่ำหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 22, 2020 12:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) กล่าวว่า แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ไทยในปีนี้ มีทิศทางที่จะฟื้นตัวหลังจากที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่เมื่อปลายปีที่แล้ว รัฐบาลอนุมัติโครงการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม ในส่วนของโครงการ "บ้านดีมีดาวน์" รวมถึงเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value: LTV) โดยบ้านหลังแรก ไม่ต้องวางเงินดาวน์และสามารถกู้เพิ่มซื้อเฟอร์นิเจอร์ 10% ส่วนบ้านหลังที่ 2 หากมีการผ่อนบ้านหลังแรกมาแล้วตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปสามารถวางเงินดาวน์เพียง 10%

อีกทั้งการประกาศพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 ในอัตรา 90% ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสียสำหรับอสังหาริมทรัพย์รอการขาย ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นอาคารชุด

"การปลดล็อกมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย ในครั้งนี้ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ เชื่อว่าสามารถทำให้ตลาดฟื้นตัวได้ในบางส่วนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้คาดว่าจะเป็นส่วนช่วยระบายสต็อกของผู้ประกอบการ ส่งผลให้ซัพพลายในตลาดลดลง และยังส่งผลบวกต่อบริษัทในด้านการโอนโครงการต่าง ๆ"นายชัยยุทธ กล่าว

นายชัยยุทธ กล่าวอีกว่า มาตรการของภาครัฐเรื่องบ้านดีมีดาวน์ อนันดาฯมีสัดส่วนของมูลค่าบ้านที่ต่ำกว่า 5 ล้านบาทเป็นจำนวนประมาณ 6,000 ล้านบาท ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการและจะเริ่มส่งผลบวกในช่วงต้นปี 2563

นอกจากนี้ด้านอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงยังเป็นผลดีต่อภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ และปัจจัยบวกจากการเพิ่มขึ้นของรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ที่จะทยอยเปิดเพิ่มจาก 109 สถานี เป็น 133 สถานี ในปี 2563 ซึ่งส่งผลดีต่อคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า รวมถึงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ อาทิ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ก็จะเป็นปัจจัยเชิงบวกด้านจิตวิทยาได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าด้วยกลยุทธ์พัฒนาคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ซึ่งการขยายเครือข่ายของรถไฟฟ้าจากปัจจุบัน 109 สถานีเป็น 221 สถานีในอีก 5 ปี และจะเป็น 319 สถานีในอีก 11 ปีข้างหน้า ทำให้ผู้นำการพัฒนาคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า อย่างอนันดาฯ ก็ได้รับผลดีจากการขยายตัวนี้โดยตรง

"เรายังเน้นย้ำการรักษาวินัยทางการเงินไว้อย่างเข้มงวด โดยจะรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไว้ที่ 1 เท่า โดยเราต้องมั่นใจว่าการเติบโตของบริษัทจะไม่เพิ่มความเสี่ยงซึ่งมีผลกระทบต่อความมั่นคงของบริษัทในระยะยาว"นายชัยยุทธ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ