ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าที่ระดับ 1,569.63 จุด ลดลง 4.96 จุด (-0.32%) มูลค่าการซื้อขาย 32,766.85 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,577.92 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,567.10 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง เนื่องจากตลาดฯไม่มีปัจจัยบวกหนุน โดยหุ้นที่ปรับตัวขึ้นก็เป็นกลุ่มเดิม ๆ ทั้งหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นบวก ส่วนหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ก็ฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมี รวมถึงกลุ่มโรงกลั่น ถ่วงตลาดฯ นอกจากนี้ยังต้องติดตามความคืบหน้าเรื่องงบประมาณ ปี 63 ซึ่งจะมีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในกรณีของการเสียบบัตรแทนในการโหวตงบปี 63
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบกันค่อนข้างแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่น, ตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นฮ่องกง โดยตลาดบ้านเราติดลบน้อยกว่า ซึ่งปัจจัยหลักตอนนี้ต่างก็เฝ้าดูเรื่องโรคระบาดปอดอักเสบว่าจะมีการแพร่ระบาดมาก/น้อยแค่ไหน หลังจากที่จีนได้ปิดเมืองอู่ฮั่นไปแล้วเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยเมืองอู่ฮั่นของจีนประกาศระงับการบริการขนส่งสาธารณะขาออกทั้งทางบกและทางอากาศ นอกจากนี้ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ดัชนีฯคงจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down โดยมีแนวรับ 1,565 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BAM มูลค่าการซื้อขาย 2,214.48 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,649.99 ล้านบาท ปิดที่ 95.25 บาท ลดลง 1.00 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,360.59 ล้านบาท ปิดที่ 54.25 บาท ลดลง 3.75 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,314.10 ล้านบาท ปิดที่ 25.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,188.10 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท ลดลง 2.00 บาท