นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่าทางการจีนมีแผนยกเลิกหรือลดการผลิต และลดการใช้ถุงพลาสติกที่ไม่ย่อยสลายตามธรรมชาติ รวมถึงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (single use) ในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 68 นั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกเม็ดพลาสติกของบริษัทไปยังประเทศจีน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทส่งออกเม็ดพลาสติกเพื่อนำไปผลิตเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักอยู่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการผลิตเม็ดพลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งวิจัยและพัฒนาสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม (high value added product) เพื่อตอบสนองทั้ง Megatrend และสังคมสูงวัย (Aging Society) โดยให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์เม็ดพลาสติกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ยางพารา เศษไม้ และสีธรรมชาติ ซึ่งเป็นมิตรต่อทั้งผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม
ด้านนายปฏิภาณ สุคนธมาน ผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เปิดเผยว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่จีนจะลดการใช้ถุงพลาสติกดังกล่าวเช่นกัน เนื่องจากตามแผนงาน 5 ปี (ปี 62-66) บริษัทก็ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะลดการผลิตสินค้าประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้งให้เหลือศูนย์ และจะหันพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกที่สามารถใช้ได้หลายครั้งทดแทน
"จีนประกาศนโยบายดังกล่าวออกมาในปีนี้ แต่ต้องถามว่าจีนจะมีผลิตภัณฑ์ใดทดแทน ซึ่งอาจต้องใช้เวลา เพราะแม้ว่าจะยกเลิกการใช้ single use plastic และหันมาใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ซ้ำแทน ผู้ผลิตก็ต้องใช้เม็ดพลาสติกเพื่อทำให้ถุงหนาขึ้น แม้ว่าปริมาณขยะจะลดลงแต่ก็ยังมีความต้องการใช้เม็ดพลาสติกเพื่อผลิตให้หนาขึ้น ขณะเดียวกันแผนการดำเนินงานของบริษัทที่ต้องการลดการผลิต single use plastic เหลือศูนย์ภายในปี 66 ก็จะสอดคล้องกับมาตรการของจีนเช่นกัน"นายปฏิภาณ กล่าว