ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงซื้อหุ้นพลังงาน หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 41.19 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 6, 2008 06:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ และจากข้อมูลประสิทธิภาพด้านการผลิตในสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Beige Book บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจภายในประเทศยังคงชะลอตัวลง และหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่อ่อนแอ
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 41.19 จุด หรือ 0.34% แตะระดับ 12,254.99 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 6.95 จุด หรือ 0.52% แตะระดับ 1,333.70 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 12.53 จุด หรือ 0.55% แตะระดับ 2,272.81จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.62 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วนกว่า 5 ต่อ 4 หุ้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า ประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้น 1.9% และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 2.6% ในไตรมาส 4 ปี 2550 ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่า ประสิทธิภาพการผลิตจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.8% และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.1%
หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นเหนือระดับ 104 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากสต็อคน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงเกินคาด และจากการที่กลุ่มโอเปคตัดสินใจตรึงเพดานการผลิตไว้เท่าเดิมที่ 29.67 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมเมื่อคืนนี้
โดยหุ้นเชฟรอน คอร์ป พุ่งขึ้น 2.4% และหุ้นเหมืองรายใหญ่ ฟรีพอร์ต แมคโมแรน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ อิงค์ ปิดพุ่งขึ้น 5.2%
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันและมีคำสั่งขายเข้ามาสะกัดช่วงขาขึ้นเมื่อสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ. อยู่ที่ระดับ 49.3 จุด ต่ำกว่าระดับ 50 จุดซึ่งบ่งชี้ถึงการหดตัว
ขณะที่รายงาน Beige Book ของเฟดบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงในหลายภูมิภาค ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นและสถาบันการเงินกำหนดมาตรฐานในการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น
ทั้งนี้ หุ้นแอมแบคปิดร่วงลง 18.8% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการ ขณะที่หุ้นเอ็มบีไอเอรูดลง 6.2% จากข่าวที่ว่าบริษัทอาจเผชิญกับการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจากสถาบันจัดอันดับเครดิต 3 แห่ง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ