นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ยังปรับตัวลงอยู่ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาก็ยังติดลบกัน โดยมีสาเหตุหลักจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีการแพร่กระจายไปทั่วโลก และทางการจีนก็ได้สั่งห้ามทัวร์จีนออกนอกประเทศ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบิน, การท่องเที่ยว และโรงแรม แม้แต่น้ำมันก็ได้รับผลกระทบไปด้วยจากการใช้น้ำมันที่ลดลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง โดยเช้านี้ราคาน้ำมันในตลาดฟิวเจอร์สก็ปรับตัวลง 2%
อย่างไรก็ดี เชื่อว่านักลงทุนคงจะมีการโยกการลงทุนมาที่หุ้นในกลุ่ม Defensive อย่างพวกโรงพยาบาล, โรงไฟฟ้า เป็นต้น นอกจากนี้เงินบาทเช้านี้ก็อ่อนค่าลงมากจากการท่องเที่ยวของคนจีนที่หายไป
พร้อมกันนี้ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยในวันที่ 28 ม.ค.DTAC ประกาศงบฯ, 29 ม.ค.SCC จะประกาศงบฯ และ 30 ม.ค.PTTEP จะประกาศงบฯ
พร้อมให้แนวรับ 1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 ม.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,989.73 จุด ลดลง 170.36 จุด (-0.58%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,295.47 จุด ลดลง 30.07 จุด (-0.90%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,314.91 จุด ลดลง 87.57 จุด (-0.93%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 399.28 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 6.51 จุด
ส่วนตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นฮ่องกง ตลาดหุ้นไต้หวัน ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ และตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ม.ค.63) 1,569.55 จุด ลดลง 4.15 จุด (-0.26%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,075.97 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ม.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 ม.ค.63) ปิดที่ระดับ 54.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 2.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ม.ค.) อยู่ที่ 1.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.61 แนวโน้มอ่อนค่า กังวลการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กระทบเศรษฐกิจ
- "ไวรัสโคโรนา" ป่วนเป้ารายได้ท่องเที่ยวไทย 3.38 ล้านล้านบาทปีนี้สะดุด สะเทือนเศรษฐกิจไทย หลังรัฐบาลจีนสั่งห้ามบริษัททัวร์พาชาวจีนออกเที่ยวนอกประเทศ คุมเข้มการแพร่ระบาด ฉุดตลาดจีนเที่ยวไทย 5.5 แสนล้านบาท กระทรวงท่องเที่ยวฯ-ททท.เร่งถกภาคเอกชนวันนี้ ปรับแผนการตลาดรับมือ เผยครม.เศรษฐกิจ ถกผลกระทบ 31 ม.ค.
- คลัง เล็งใช้สบน.กู้เงินบรรเทาผลกระทบงบประมาณปี 63 ลากยาว 'พิพัฒน์'เมินเสียงค้านเดินหน้า"ชิม ช้อป ใช้"อินเตอร์ ชง ครม.อนุมัติ 31 ม.ค. นักวิชาการชี้ไวรัสอู่ฮั่นกระทบท่องเที่ยว 80,000-120,000 ล้านบาท หากต้น มี.ค.คุมไม่อยู่ยิ่งบานปลายหนัก
- นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในปี 63 ททท.กำลังหาช่องทางดึงนักท่องเที่ยวไทยที่นิยมเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศ ได้หันกลับมาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น หลังจากได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยไปต่างประเทศพบว่า ในเดือน ม.ค.-พ.ย. 62 สูงถึง 12.27 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10% โดยตั้งเป้าหมายพยายามดึงคนกลุ่มนี้มาเที่ยวไทยให้ได้สัก 2 ล้านคน ถือว่าประสบความสำเร็จ แต่ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก เพราะที่ผ่านมามีปัจจัยสนับสนุนหลายอย่างให้คนเลือกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ค่าใช้จ่ายในการเดินทางถูกลง รวมไปถึงการแข่งขันทางด้านราคาที่รุนแรงของธุรกิจท่องเที่ยว
- นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาสุกรหน้าฟาร์มอยู่ที่ 79-80 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในช่วงสั้นๆ จากเทศกาลตรุษจีน โดยราคานี้ทำให้เกษตรกรพออยู่ได้ หลังจากแบกรับภาระขาดทุนสะสมมาถึง 3 ปี และไม่กระทบกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคจนเกินไปนับว่าเป็นราคาที่เหมาะสมเป็นไปตามกลไกตลาด
- แบงก์ชาติ ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ผ่อนปรนการคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ให้ลูกหนี้ทันที แม้ประกาศที่ใช้บังคับการคิดดอกเบี้ยผิดนัดแบบใหม่ จะมีผล 1 พ.ค.63 ประชาชนสามารถได้รับสิทธิต่างๆ โดยไม่ต้องขอแก้สัญญา
*หุ้นเด่นวันนี้
- BDMS (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้าสูงสุด IAA Consensus 30 บาท ผ่านพ้นช่วงการลงทุนใหญ่มาแล้ว ต่อจากนี้จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลกำไร อีกทั้งระยะสั้นยังได้อานิสงส์จากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา ทั้งนี้หากเทียบสถิติกับช่วงการแพร่ระบาดของโรคซาร์สในปี 2546 กลุ่มโรคพยาบาลเป็นกลุ่มที่ Outperform ตลาดมากที่สุด
- CPF (เคทีบีฯ) "ซื้อ"เป้าเชิงกลยุทธ์ 32 บาท ได้ประโยชน์จากโรคระบาดโคโรนาในจีน จะทำให้เกิดภาวะอุปทานไก่ หมู ตึงตัว ดั้งนั้น จึงเชื่อว่าจีนน่าจะมีการนำเข้าเพิ่มขึ้น โดยคาดกำไรปกติ Q4/62 ที่ 3.2 พันล้านบาท แข็งแรงจากเดิมที่คาดว่าจะเป็น low season +93%YoY, +12%QoQ พร้อมประเมินกำไรปกติ 2562 เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 9% ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท (+105% YoY) และปรับกำไรปกติ 2563 เพิ่มขึ้น 12% อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท (+11% YoY)