นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ (27-31 ม.ค.63) แนวโน้มตลาดหุ้นทั่วโลกจะเจอผลกระทบจากความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อในจีนและประเทศต่าง ๆ เพิ่มขึ้น โดยประเมินดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,520-1,550 จุด ขณะที่ยังได้รับผลกระทบเรื่องการท่องเที่ยวหลังจากจีนระงับการเดินทางของกรุ๊ปทัวร์ตั้งแต่ 27 ม.ค. รวมถึงมีการเลี่ยงเดินทางไปยังประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ จึงกระทบต่อธุรกิจที่อิงรายได้จากการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม , สายการบิน ,สนามบิน แต่หากมีการประกาศการควบคุมผู้ติดเชื้อในวงจำกัด หุ้นเหล่านี้จะปรับตัวกลับขึ้นมาได้
อีกประเด็นสำคัญคือ สหรัฐฯเริ่มใช้มาตรการด้านภาษีรอบใหม่ โดยมีการประกาศในเรื่องภาษีนำเข้าอลูมิเนียมกับเหล็กซึ่งจะมีการเจรจาการค้ารอบใหม่กับยุโรป แต่จะยังไม่มีผลต่อตลาดในระยะนี้
ส่วนปัจจัยในประเทศ ประเด็นเรื่องการเมือง อาจสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน หลังยังไม่ชัดเจนว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ ซึ่งจะมีผลทางลบต่อหุ้นรับเหมาและนิคมอุตสาหกรรมที่อ้างอิงกับการลงทุนของรัฐบาลและนักลงทุนต่างประเทศ และสัปดาห์นี้ตลาดจะทยอยรายงานกำไรไตรมาส 4/62 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ต่าง ๆ ซึ่งค่อนข้างชัดเจนว่าหุ้นที่ถูกคาดว่ากำไรจะออกมาดีราคาจะปรับตัวลงน้อยกว่าหุ้นที่ไม่มีปัจจัยบวกจากเรื่องนี้
สำหรับกลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์นี้ ความกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนาและเรื่องการเมืองในประเทศจะกดดันตลาด ซึ่งได้จากตลาดหุ้นไทยวันทำการแรกของสัปดาห์ปรับตัวลงอย่างแรงกว่า 45 จุด หรือราว 2.9% เช่นเดียวกับตลาดในภูมิภาค จากปัจจัยความกังวลเรื่องการระบาดของโรค และคาดว่าการซื้อขายถูกจำกัดและนักลงทุนยังไม่กล้าเข้าซื้อหุ้น แต่ KTBST มองว่าหุ้นส่วนใหญ่ที่ราคาอ่อนตัวลงมามากอาจมีแรงซื้อกลับมา โดยเฉพาะหุ้นที่อ้างอิงกับท่องเที่ยวที่ต้องจับตามองเพราะอาจปรับตัวลงต่อได้ ถ้าสถานการณ์ไวรัสระบาดมากขึ้น โดยหุ้นที่ KTBST แนะนำได้แก่ BDMS, CPF, COM7, LH , EA, , TOA และ GUNKUL