ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,531.53 จุด เพิ่มขึ้น 7.38 จุด (+0.48%) มูลค่าการซื้อขาย 28,092.54 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,533.49 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,519.15 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์หลังปรับตัวลงแรงเมื่อวานนี้ และยังดูดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบ โดยเฉพาะตลาดที่พึ่งกลับมาเปิดเทรดหลังปิดตรุษจีน อย่างตลาดหุ้นเกาหลีปรับตัวลง 3.2% แต่ทั้งนี้ตลาดฯปรับตัวขึ้นไปก็มีโอกาสจะถูกขายออกมา เนื่องจากยังไม่ไว้วางใจและยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ต้องสงสัยจะติดเชื้อ รวมถึงผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ พรุ่งนี้ (29 ม.ค.) มศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับวินิจฉัยกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เสียบบัตรแทนกันในการลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 หากรับคงจะต้องใช้ระยะเวลาวินิจฉัยราว 15-30 วัน แต่ถ้าไม่รับก็จบไปและคาดว่าหุ้นจะปรับตัวขึ้นด้วย เพราะความกังวลเรื่องความล่าช้าของงบประมาณเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดปรับตัวลง
นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีการประชุมในวันที่ 30 ม.ค.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย แต่ต้องจับตาเรื่อง Repo จะเป็นอย่างไร และติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวในแดนลบได้ โดยมีแนวรับ 1,510 จุด ส่วนแนวต้าน 1,537-1,540 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,025.22 ล้านบาท ปิดที่ 68.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 2,175.44 ล้านบาท ปิดที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,302.02 ล้านบาท ปิดที่ 72.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,023.51 ล้านบาท ปิดที่ 43.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 853.52 ล้านบาท ปิดที่ 93.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท