(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ตามตปท.-ราคาน้ำมันฟื้นตัว/จับตาศาลรธน.รับ-ไม่รับคำร้องกรณีส.ส.เสียบบัตรแทนโหวตงบปี 63

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 29, 2020 09:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ฟื้นตัวขึ้นหลังจากปรับตัวลงไปมาก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่รีบาวด์เฉลี่ย 0.5% ยกเว้นตลาดหุ้นฮ่องกงที่พึ่งกลับมาเปิดตลาดหลังหยุดตรุษจีนก็ปรับตัวลงแรงกว่า 3% และตลาดสหรัฐฯก็ฟื้นตัวเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากทุกประเทศต่างพยายามที่ยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ทำให้ต่างมองกันว่าจำนวนผู้ติดเชื้อแม้จะยังเพิ่มขึ้นแต่ก็น่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง ซึ่งก็จะเป็นผลดีต่อตลาดฯ

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ฟื้นตัวขึ้นด้วย อย่างไรก็ดี วันนี้ให้จับตาศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับวินิจฉัยกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เสียบบัตรแทนกันในการลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 และให้ติดตามดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของไทย เดือนธ.ค.62 ที่ประกาศในวันนี้ รวมถึงติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีขึ้นในวันที่ 28-29 ม.ค.นี้

พร้อมให้แนวรับ 1,500-1,505 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520 ถัดไป 1,530-1,535 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 ม.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,722.85 จุด เพิ่มขึ้น 187.05 จุด (+0.66%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,276.24 จุด เพิ่มขึ้น 32.61 จุด (+1.01%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,269.68 จุด เพิ่มขึ้น 130.37 จุด (+1.43%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 93.61 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 848.10 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 11.46 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.06 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.01 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 3.83 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ม.ค.63) 1,513.26 จุด ลดลง 10.89 จุด (-0.71%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 650.16 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ม.ค.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 ม.ค.63) ปิดที่ระดับ 53.48 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.6%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ม.ค.) อยู่ที่ -0.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.77 แข็งค่าจากวานนี้ หลังดอลล์อ่อน มองกรอบวันนี้ 30.70-30.90
  • คลังลั่นพร้อมเข็นทุกมาตรการรกระตุ้นเศรษฐกิจ บรรเทาพิษไวรัสโคโรนา เล็งส่ง "ชิม ช้อป ใช้" เฟส 4 ดันบริโภคในประเทศ ขณะที่ "ททท." ดันมาตรการท่องเที่ยว 2 ชุดใหญ่ ชงคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ 31 ม.ค.นี้ เสนอลดภาษีน้ำมันเครื่องบิน-สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ อุ้มผู้ประกอบการ เบรกแผนชง "ฟรีวีซ่าจีน-อินเดีย" เปลี่ยนเป็นต่ออายุฟรีวีซ่าวีโอเอ ถึงสิ้นปี
  • ครม.จัดชุดใหญ่ ปลุกลงทุน เอกชน ไฟเขียว 3 มาตรการ รายจ่ายลงทุนหักภาษี 2.5 เท่า พร้อมเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักรทุกรายการ พร้อมอัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ คาดรัฐสูญรายได้ 8.6 พันล้านบาท แต่กระตุ้นลงทุนได้กว่า 1.1 แสนล้านบาท ดัน "จีดีพี" ปีนี้ขยับเพิ่ม 0.25%
  • พาณิชย์เผยยอดการค้าชายแดนและผ่านแดนปี 62 จบที่ 1.337 ล้านล้านบาท ลดลง 3.43% เจอผลกระทบจากบาทแข็ง ค่าเงินผันผวน ส่วนปี 63 ขอทบทวนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
  • ครม.ไฟเขียวรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก "ศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์" 1.42 แสนล้านบาท เปิดทางเอกชนร่วมลงทุน PPP สัญญา 30 ปี พร้อมรับความเสี่ยงรายได้จากค่าโดยสารพ่วงการพัฒนาเชิงพาณิชย์ พร้อมคลอดมาตรการภาษีดันเอกชนลงทุนปี 63

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TOP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 79 บาท ราคาลดลงมากเกินไป (34% ภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือน) ขณะที่ปัจจุบันค่าการกลั่นพลิกเป็นบวกแล้วจากที่ 2 เดือนก่อนหน้าเคลื่อนไหวในแดนลบ มองด้าน Valuation ค่อนข้างถูก ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่า Book value ของ TOP ที่ 58 บาท
  • SPRC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 11.5 บาท ผลประกอบการ Q4/62 ที่คาดว่าจะขาดทุนราว 2 พันล้านบาท เพราะปิดซ่อมบำรุงใหญ่เดือน พ.ย.-ธ.ค. เชื่อว่าตลาดรับรู้ไปแล้ว ขณะที่ค่าการกลั่นที่ต่ำใน Q4/62 ทำให้บริษัทไม่ได้เสียโอกาสทางธุรกิจ ด้านค่าการกลั่นสิงคโปร์ที่ต่ำผิดปกติตั้งแต่ปลายปีก่อนเพราะการปรับตัวรับมาตรการ IMO บวกกับต้นทุนน้ำมันและค่าขนส่งสูงขึ้น แต่ค่าการกลั่นไทยสูงกว่านั้น ล่าสุดค่าการกลั่นขยับขึ้นสูงกว่า 1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล คาดว่าจะกลับสู่ปกติปลาย Q1/63 หลังสต็อกน้ำมัน LSFO (น้ำมันกำมะถันต่ำ) ทยอยหมดไป โดยปี 2563 คาดพลิกเป็นกำไร 3.8 พันล้านบาท จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นและประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้นหลังปิดซ่อมแล้ว เป็นโรงกลั่นที่ถูกสุดด้วย P/E 9 เท่า
  • AP (ฟินันเซีย ไซรัส) คาดกำไรปกติ Q4/62 โดดเด่น +44% Q-Q จากส่วนแบ่งกำไรของ JV ที่เร่งตัวขึ้นหลังเริ่มโอนคอนโดใหม่ 2 แห่ง แต่ -13% Y-Y จากฐานสูงและการปฏิเสธสินเชื่อที่สูงขึ้น แนวโน้ม Q1/63 ดีต่อเพราะมีคอนโดใหม่ 2 แห่งเริ่มโอน สำหรับปี 2563 ผู้บริหารมีมุมมองระมัดระวัง เน้นแนวราบเป็นหลัก โดยตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 37 แห่ง มูลค่า 4.7 หมื่นล้านบาท (แนวราบ 74% คอนโด 26%) เพราะแนวราบสามารถรับรู้เป็นรายได้ภายในปี พร้อมคาดกำไรปี 2563 +7% Y-Y เป็น 3.65 พันล้านบาท ดีกว่ากลุ่มที่ +3.5% Y-Y คงเป้า 8.20 บาท AP ยังเป็น Top pick ของกลุ่ม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ