สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ดูแลการออกเสนอขายและติดตามสถานการณ์ตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด พบกลุ่มตราสารหนี้ non-investment grade และ unrated มีร้อยละ 6 คาดออกเกณฑ์ปรับปรุงการกำกับดูแลหุ้นกู้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มความคุ้มครองผู้ลงทุนให้ได้รับการเปิดเผยข้อมูลที่เพียงพอ พร้อมแนะผู้ลงทุนสืบค้นข้อมูลหุ้นกู้ได้ที่แอปพลิเคชัน SEC Bond Check
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ตราสารหนี้ถือเป็นเครื่องมือระดมทุนที่สำคัญประเภทหนึ่งที่ภาคธุรกิจใช้ในการเสริมสภาพคล่องและขยายกิจการ รวมทั้งทดแทนหรือเป็นส่วนเพิ่มเติมจากการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน โดยตราสารหนี้ส่วนใหญ่เป็นตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่ลงทุนได้ (investment grade) และมีส่วนที่เป็นตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับลงทุน (non-investment grade) และตราสารที่ไม่ได้รับการจัดอันดับ (unrated) ซึ่ง ก.ล.ต. มีเกณฑ์กำกับดูแลที่เข้มงวดเพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้ติดตามสถานการณ์การออกและเสนอขายตราสารหนี้เอกชนอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 เป็นต้นมา ซึ่งพบว่ากลุ่มตราสารหนี้ non-investment grade และตราสารหนี้ unrated มีสัดส่วนทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 6 ของตราสารหนี้ภาคเอกชนทั้งหมด โดยมีจำนวนผู้ออกลดลงเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2561 และมากกว่าครึ่งเป็นตราสารหนี้ระยะยาว ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ปรับเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้ให้มีความเข้มงวดมากขึ้นตามความจำเป็น และเพิ่มความคุ้มครองผู้ลงทุนให้ได้รับการเปิดเผยข้อมูลที่เพียงพอและครบถ้วน รวมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจประชาชนเกี่ยวกับการลงทุนในตราสารหนี้อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้สร้างกลไกให้ผู้ลงทุนสามารถทำความเข้าใจความเสี่ยงของตราสารหนี้ก่อนการลงทุนและมีข้อมูลสำคัญที่เป็นปัจจุบันประกอบการตัดสินใจลงทุน รวมถึงมีช่องทางในการเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ก.ล.ต. จึงได้ปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลตลาดตราสารหนี้ในปี 2562 ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. และคณะกรรมการกำกับตลาดทุนแล้ว คาดว่าจะออกเกณฑ์ได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2563 ได้แก่ (1) จำกัดผู้ลงทุนในการเสนอขายวงแคบไม่เกิน 10 ราย ต้องเป็นกรรมการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือบริษัทในเครือ ของผู้ออกตราสารหนี้ และผู้ลงทุนสถาบัน (2) เพิ่มเกณฑ์คุ้มครองผู้ลงทุนรายใหญ่ให้ใกล้เคียงกับผู้ลงทุนทั่วไป (3) เพิ่มให้ผู้ออกตราสารหนี้ส่งงบการเงินทุกครึ่งปีจากเดิมส่งปีละครั้ง (4) ปรับปรุงสรุปข้อมูลสำคัญของตราสารหนี้ (factsheet) ให้กระชับ เน้นข้อมูลที่จำเป็น น่าอ่าน เข้าใจง่าย และเปรียบเทียบความเสี่ยงง่ายขึ้น และ (5) ให้ผู้ออกตราสารหนี้และนายทะเบียนหลักทรัพย์รายงานการผิดนัดชำระหนี้ต่อผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อให้มีข้อมูลจัดการกรณีดังกล่าวได้รวดเร็วขึ้น
ก.ล.ต. ยังได้ติดตามการดำเนินงานของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และกำกับดูแลสถาบันดังกล่าวให้ทำหน้าที่ประเมินความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เพื่อให้มั่นใจว่าปฏิบัติตามมาตรฐานสากลและหลักเกณฑ์การกำกับดูแลในเรื่อง (1) กระบวนการจัดอันดับเครดิตมีคุณภาพและน่าเชื่อถือ (2) ดำเนินงานได้เป็นอิสระ (3) มีธรรมาภิบาลองค์กร การบริหารความเสี่ยงองค์กร และการจัดการบุคลากร (4) มีการเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ รวมถึงการยกระดับการปฏิบัติงานของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และกำหนดความคาดหวังในการทำหน้าที่รักษาประโยชน์ให้ผู้ถือหุ้นกู้
ในด้านการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ลงทุน ก.ล.ต. ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชัน SEC Bond Check สำหรับค้นหารายชื่อหุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายใหม่ อายุ อัตราดอกเบี้ย และระดับความเสี่ยง รวมถึงสามารถเปรียบเทียบอัตราดังกล่าวของหุ้นกู้ที่เสนอขายในเวลาใกล้เคียงกันได้ด้วย โดยสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android ได้ที่ https://is.gd/nDqpEE