บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) คาดว่า ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป จะมีรายได้และส่วนแบ่งกำไรในปี 63 จะเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน พร้อมตั้งเป้าอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) ที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 40% ทั้งนี้ คาดการณ์จะมีการใช้งบประมาณในการลงทุนช่วงปี 63-67 ที่ 5.2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ในปี 62 ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีผลประกอบการและส่วนแบ่งกำไรรวมมูลค่าราว 1.35 หมื่นล้านบาท และมีมูลค่าสินทรัพย์โดยรวม 8.2 หมื่นล้านบาท โดยมีลูกค้าใหม่ทั้งหมด 80 ราย และมีสัญญาซื้อที่ดินและเช่าโรงงานจำนวน 130 ฉบับ ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้ารวม 900 ราย จากสัญญารวมทั้งฉบับ 1,450 ฉบับ
ขณะที่ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ เตรียมตัวเปิดโครงการใหม่ๆ รวมถึงโครงการอีคอมเมิร์ซและการเช่าใหม่ในปี 63 ตั้งเป้ายอดเช่าอาคารไว้ที่ 250,000 ตารางเมตร ที่จะทำให้พื้นที่คลังสินค้าภายใต้การถือครองและบริหารรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2,560,000 ตารางเมตร นอกเหนือจากพื้นที่คลังสินค้าที่มีอยู่ในประเทศไทยและในอินโดนีเซียแล้ว ยังมองหาโอกาสการขยายธุรกิจเพิ่มเติมในเวียดนามด้วย
ทั้งนี้ ในปี 63 จะมีแผนขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ราว 150,000 ตารางเมตร ซึ่งทั้ง 4 กองทุนของกลุ่มมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 45%ต่อปี และมีมูลค่าสูงถึง 5.54 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 62 โดยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยมโกรท (WHART) และ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นราว 77% และ 30% ตามลำดับ
ส่วน บมจ.ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนต์ (WHAID) จะสร้างนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง ในช่วงปลายปี 63 ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 11 ของกลุ่ม และขยายนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 4 และพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่อีก 3 แห่งภายในปี 66
ในเวียดนาม WHAID จะพยายามเร่งยอดขายเพื่อดึงดูดนักลงทุนมายังเขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1- เหงะอาน อยู่ในพื้นที่ภาคกลางตอนเหนือของเวียดนาม ขณะเดียวกันบริษัทจะพัฒนาพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เหลือของประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1- เหงะอาน เฟส 1 ทั้งนี้อยู่ในระหว่างการขออนุมัติใบอนุญาตจากรัฐบาลเวียดนาม
สำหรับ บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) จะขยายธุรกิจ พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการน้ำรูปแบบใหม่ และเสริมพอร์ทด้านพลังงานด้วนนวัตกรรมโซลูชันพลังงาน โดยจะขยายการให้บริการไปยังกลุ่มลูกค้านอกนิคมอุตสาหกรรมของ WHA ทั้งในไทยและเวียดนาม และจะให้บริการโซลูชันทรัพยากรน้ำหลากหลายรูปแบบ ทั้งการบำบัดน้ำเสียและปรับปรุงคุณภาพน้ำ การผลิตน้ำที่ปราศจากแร่ธาตุ และการนำน้ำทะเลมาผลิตเป็นน้ำจืด ส่วนในเวียดนามจะยังมองหาโอกาสการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค
นอกจากนี้ WHAUP จะขยายธุรกิจด้วยการพัฒนาโซลูชันพลังงานหมุนเวียน หลังจากเปิดบริษัท ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมเมื่อพ.ย.62 WHAUP จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา บริษัทจะยังคงทำงานร่วมกับพันธมิตรระยะยาวในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหลัก
ส่วนดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล แพลตฟอร์ม ตั้งเป้าสนับสนุนการดำเนินงานทุกรูปแบบในทุกฮับของกลุ่ม ช่วงปลายปี 63 จะมีการติดตั้งไฟเบอร์ออพติก ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนในนิคมอุตสาหกรรม 9 แห่งจากทั้งหมด 10 แห่งในไทย
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA กล่าวว่า แม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะต้องเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่ผลการดำเนินงานของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอัตรา 22% ในขณะเดียวกันเรายังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจทั้ง 4 กลุ่มของบริษัทอย่างต่อเนื่อง พร้อมรุกตลาดในไทยและเวียดนาม
พร้อมทั้งเฝ้าระวังสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบโลกในปี 63 อาทิ ความตึงเครียดด้านการค้าโลก การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ผลกระทบจากเทคโนโลยีใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เหตุการณ์เหล่านี้อาจสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัท
ในปี 63 ดับบลิวเอชเอกร๊ป ได้กำหนดทิศทางกลยุทธ์ไว้ 5 ข้อ ได้แก่ การขยายธุรกิจในต่างประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้น, สร้างพอร์ตโฟลิโอของบริษัทให้เติบโตมากขึ้นด้วยโซลูชั่นที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับลูกค้า, ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อประโยชน์แก่ทุกฝ่าย, ผสานกำลังธุรกิจทุกภาคส่วนของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ให้มากขึ้น และเดินหน้าทรานส์ฟอร์มสู่องค์กรดิจิทัล