นายอารีย์ พุ่มเสนาะ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซี.ไอ.กรุ๊ป (CIG) คาดรายได้ปี 51 โตประมาณ 100% เป็น 2.0 -2.5 พันล้านบาท จากปี 50 ที่มีรายได้ 1.3 พันล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีคำสั่งซื้อแล้วประมาณ 500 ล้านบาท และจะมีคำสั่งซื้ออื่นที่เข้ามาเพิ่มเติมจากผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศจากญี่ปุ่นและเกาหลี
"เชื่อว่าระยะเวลาหาออเดอร์อีก 10 เดือน ก่อนสิ้นปีนี้ ก็จะสามารถทำรายได้ตามเป้าที่กำหนดไว้" นายอารีย์ กล่าว
ในปีนี้ บริษัทมีแผนผลิตสินค้าคุณภาพสูง ซึ่งจะกำหนดราคาได้สูงขึ้น เพื่อให้มีรายได้และมาร์จิ้นสูงขึ้น รวมทั้ง คาดปีนี้รายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 50% จาก 30% เนื่องจากบริษัทเน้นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและรองรับกับตลาดต่างประเทศ คำสั่งซื้อจากต่างประเทศ
ดังนั้น บริษัทเชื่อมั่นว่า กำไรสุทธิ จะไม่ได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่า และปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 15% โดยบริษัทพยามยามลดต้นทุนการผลิต โดยปรับระบบการผลิตโรงงานใหม่
ส่วนคำสั่งซื้อใหม่จากแคร์เรียร์ เบื้องต้นจะได้คำสั่งซื้อใหม่จากยุโรปส่วนใหญ่ ประมาณ 1.2 พันล้านบาท และคาดรับรู้รายได้ประมาณ 500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากการที่เงินบาทแข็งค่า และลูกค้ากำหนดราคาซื้อขายเป็นเงินเหรียญสหรัฐ น่าจะส่งผลกระทบต่อรายได้บริษัท ในรูปเงินบาท แต่บริษัทพยายามนำเข้าวัตถุดิบ อาทิ ทองแดง ในสกุลเงินเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบดังกล่าวได้เกือบหมด
"หลังจากที่เรามีออเดอร์ใหม่จากแคร์เรียร์ และเชื่อว่าจะเป็นคู่ค้าที่ดีในอนาคต บวกกับการขยายกำลังการผลิตทำให้ปี 52 จะทำให้รายได้เพิ่มเป็น 3 - 3.5 พันล้านบาท และปี 53 จะเพิ่มเป็น 5 พันล้านบาท ส่วนปีนี้ ที่ตั้งเป้ารายได้ไว้ 2-2.5 พันล้านบาทต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่เคยบอกไว้ 3 พันล้านบาท เนื่องจากเป็นการบอกตัวเลขแบบ conservative และต้องการทำให้ได้ตามที่บอกไว้" นายอารีย์ กล่าว
*ลงทุน 300 ลบ.สร้างรง.ใหม่ /ร่วมทุนแคร์เรียร์สิงคโปร์
นายอารีย์ กล่าวว่าในปี 51 บริษัทเตรียมเงินลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนซื้อเครื่องจักร 200 ล้านบาท และซื้อที่ดินและก่อสร้างโรงงานใหม่ 100 ล้านบาท โดยแหล่งเงินมาจากเงินเพิ่มทุน ที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้โดยบริษัทได้เงินมา 400 ล้านบาท ขณะนี้เหลืออยู่ 170 ล้านบาท ส่วนที่เหลือบริษัทจะกู้เงินจากสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ การขยายโรงงานใหม่เพื่อรองรับคำสั่งซื้อของ แคร์เรียร์ โดยบริษัทรับจ้างผลิตคอยล์ที่ใช้กับเครื่องปรับอากาศ
สำหรับการเป็นพันธมิตรร่วมกับบริษัท แคร์เรียร์ สิงคโปร์ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปได้ภายในครึ่งแรกปีนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาสัดส่วนการร่วมทุนและรายละเอียดของดำเนินธุรกิจร่วมกัน โดยคาดจะตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง
การร่วมทุนครั้งนี้คาดว่าจะใช้เงินก่อสร้างโรงงานประมาณ 70 ล้านบาท ส่วนที่ดินมีอยู่แล้ว เชื่อว่า เงินลงทุนครั้งนี้ไม่สูงมาก ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมีการเพิ่มทุนอีกรอบ
"หลังจากที่เราเพิ่มทุนเมื่อปี 50 ได้ราคาหุ้นเพิ่มทุนที่ดี ระดมทุนได้ 400 ล้านบาท จึงไม่มีแผนเพิ่มทุนอีก และหากจำเป็นจริงๆ จะต้องศึกษาอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เกิด dilution effect ต่อผู้ถือหุ้นบริษัท" นายอารีย์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/เสาวลักษณ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--