หุ้น PLANB ราคาขยับขึ้น 4.20% มาอยู่ที่ 6.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 235.58 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.08 น. โดยเปิดตลาดที่ 6.20 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 6.30 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 6.00 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า จากกรณีประเด็นข่าวการยื่นฟ้องนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และมีการอ้างถึงการเอื้อประโยชน์ให้กับ บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) นั้น ทางบริษัทฯ ได้ยืนยันว่าบริษัทได้ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนในการประมูลและส่งมอบรายได้ให้กับทางสมาคมฯ ในช่วงที่ผ่านมาปีละมากกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าการรับประกันรายได้ขั้นต่ำ (minimum guarantee) ให้กับทางสมาคมฯที่ 510 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาในการต่อสัญญาในรอบถัดไป สำหรับสัญญาดังกล่าวมีอายุ 4 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2560 และจะหมดสัญญาในปี 2563 นี้ และจะเริ่มมีการประมูลในการบริหารลิขสิทธิ์ใหม่หลังจากการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตแห่งประเทศไทยฯที่คาดจะเสร็จในเดือน ก.พ.63 นี้
ในมุมมองของเรา มองว่าไม่น่าจะกระทบต่อการต่อสัญญาใหม่ เนื่องจากบริษัทฯ ได้ทำถูกตามขั้นตอนและที่ผ่านมาก็สามารถทำรายได้ให้กับทางสมาคมฯ ได้เกินกว่าการรับประกันรายได้ขั้นต่ำจากการที่บริษัทฯมีความพร้อมในการขายสื่อโฆษณานอกบ้านที่หลากหลาย
อย่างไรก็ตาม ในกรณี worst case ได้ประเมินเบื้องต้นหากตัดรายได้ส่วนนี้ในปีนี้และไม่ได้รับการต่อสัญญาอีกในอนาคต จะส่งผลกระทบกำไรหายไปปีละประมาณ 100 ล้านบาท (หรือคิดเป็นประมาณ 10% ของประมาณการกำไรสุทธิในปีนี้) หรือจะคิดเป็นมูลค่าที่เหมาะสมหายไปประมาณ 5% จากปัจจุบันที่ประเมินไว้ที่ 11 บาท จึงมองว่าราคาหุ้นปรับตัวลงมากเกินไป เป็นจังหวะในการเข้า "ซื้อ" จากโอกาสการเติบโตของบริษัทในการขยายสื่อโฆษณานอกบ้านต่อเนื่อง รวมถึงภาพอุตสาหกรรมสื่อนอกบ้านยังเติบโตจากการพัฒนารูปแบบสื่อใหม่และยังมีส่วนแบ่งการตลาดที่ต่ำเทียบกับสื่อโฆษณาโดยรวม
ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"หุ้น PLANB ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 11 บาท จากโอกาสการเติบโตจากการขยายสื่อใหม่ต่อเนื่องและร่วมเป็นพันธมิตรกับ VGI, MACO ทำให้ทั้งกลุ่มรวมกันเป็นผู้นำสื่อนอกบ้านมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 80% ทำให้สามารถขาย bundle package ได้มากยิ่งขึ้น และยังมีโอกาสการเติบโตจากการรลงทุนในสาขา 7-Eleven ที่มากกว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ
ราคาหุ้นปัจจุบันมี PER63F อยู่ที่ 21.4X หรือ -1.5STDV ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PLANB ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 39X บริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมี D/E20F ที่ 0.3x
นอกจากนี้ คาด PLANB จะมีกำไรสุทธิปี 2562F ที่ 752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +17% และคาดบันทึกกำไรสุทธิสูงสุดไตรมาส 4/62 อยู่ที่ 232 ล้านบาท (+31%YoY, +25%QoQ) เพิ่มขึ้นจากการขยายกำลังการสื่อโฆษณานอกบ้านเพิ่มขึ้นปี 2019 อยู่ที่ 5,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%YoY โดยยังคงประมาณการเดิม คาดกำไรสุทธิปี 2562-2564 เติบโตเฉลี่ย 25% (CAGR3y) จาก 1)การบริหารสิทธิ์สื่อกีฬาโอลิมปิกญี่ปุ่นปีหน้า โดยบริษัทมีการทำสัญญาได้ sponsorship กับ AIS, Toyota, ธ.ออมสิน, PPTV, AIS Play เป็นต้นเพิ่มขึ้น 2) สื่อโฆษณาในร้านสะดวกซื้อ 7-11 คาดเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ เม.ย.63 จำนวน 500 สาขา และช่วงครึ่งหลังปี 2563 (H2/63) อีก 500 สาขา และปี 2564 อีก 1,000 สาขา 3) คาดรายได้จาก I AM (เดิม BNK48) ปี 2562 อยู่ที่ 550 ล้านบาท และปี 2563-64 เพิ่มขึ้นปีละ 10% คาดการใช้สื่อโฆษณาเฉลี่ยรวม เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 78-80% จากการร่วม synergy กับ VGI และ MACO รวมถึงการขยายสื่อป้ายดิจิทัลของ PLANB ปีนี้เพิ่มขึ้น