ดัชนีหุ้นไทยภาคเช้าร่วงกว่า 10 จุดใกล้หลุด 1,500 จุด ซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับลดลง ท่ามกลางความกังวลของสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่จะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ขณะที่ล่าสุดยังพบการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ในเมืองเซาหยาง มณฑลหูหนานของจีนเข้ามาซ้ำเติมสถานการณ์ด้วย
เมื่อเวลา 11.08 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,502.78 จุด ลดลง 11.36 จุด (-0.75%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.19 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,502.27 จุด ลดลง 11.87 จุด (-0.78%)
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันเป็นส่วนใหญ่เฉลี่ย 1% ยกเว้นตลาดหุ้นจีนที่ร่วงแรงกว่า 8% หลังกลับมาเทรดวันแรกจากที่หยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน หลัก ๆ ยังรับปัจจัยลบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา และยังมีเรื่องโรคไข้หวัดนก H5N1 ในจีนเข้ามาเพิ่มเติมด้วย
ขณะที่ตลาดฯไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 4/62 ก็ยังไม่ดี จากที่เจอภัยแล้งด้วย ดังนั้น จึงมีแรง Take profit หุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างแรงในช่วงที่ผ่านมา อย่างหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า และมีหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลที่ปรับตัวลงด้วยหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมากแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ดี Downside ของตลาดฯไม่น่าจะมากแล้ว หลังจากที่ได้ปรับตัวลงมาราว 100 จุดในช่วงเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมา ในทางเทคนิคก็เริ่มเข้าเขต Oversold ด้วย ทำให้อาจมีรีบาวด์ระยะสั้นในระหว่างทางได้
พร้อมให้แนวรับ 1,500-1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,510-1,515 จุด