นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ (3-7 ก.พ. 63) มีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,480-1,524 จุด โดยการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กำลังขยายวงและส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นและเศรษฐกิจโลก จากการที่โรงงานอุตสาหกรรมในประเทศจีนหยุดการผลิตและกระทบต่อประเทศต่าง ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักหนึ่งเดียวที่มีผลต่อตลาดในเวลานี้
อย่างไรก็ตามแม้จะคาดการณ์ว่าผลกระทบต่อตลาดหุ้นจะไม่นานมาก อาจเห็นดัชนีหุ้นไทยปรับตัวถึงจุดต่ำสุดแค่ในช่วงเดือน ก.พ.นี้ หากสถานการณ์ไวรัส ไม่แพร่ในวงกว้างจนกระทบเศรษฐกิจโลกจริง ๆ หรือถูกควบคุมได้ในวงจำกัด แต่ตลาดหุ้นไทย มีปัจจัยด้านการเมืองเข้ามากดดัน โดยเฉพาะเรื่องการพิจารณางบประมาณปี 63 และการอภิปรายไม่ไว้วางใจรวมไปถึงเรื่องการยุบพรรค ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความเชื่อมั่นในรัฐบาล ขณะเดียวกันการออกมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐฯ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสเข้ามา ส่งผลให้นักลงทุนนักลงทุนยังไม่รีบกลับเข้ามาลงทุนในช่วงนี้
ส่วนการรายงานงบการเงินไตรมาส 4/62 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะส่งผลบวกกับหุ้นเฉพาะตัวเท่านั้น โดยกลุ่มหลักที่มีน้ำหนักต่อทิศทางตลาดอย่างกลุ่มน้ำมัน , ปิโตรเคมี , ธนาคาร ได้มีการประมาณการกำไรกันไปแล้ว และเริ่มคาดการณ์ว่ากำไรไตรมาส 1/63 อาจจะได้รับผลกระทบจากเรื่องโคโรนาไวรัสและราคาน้ำมันที่ร่วงลง
สำหรับประเด็นที่สำคัญในสัปดาห์นี้ที่ต้องติดตามคือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 5 ก.พ. และการรายงานตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯวันที่ 7 ก.พ.
ด้านกลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์นี้ KTBST คาดว่าตลาดจะมีผันผวนสูง จากความกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสซึ่งกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยที่ได้รับผลกระทบเดิมอยู่แล้ว นักลงทุนอาจพิจารณาหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว , อิเล็กทรอนิกส์ และรอจนกว่าสถานการณ์เริ่มคลายความกังวล ขณะเดียวกันแนะนำหุ้นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดี (Defensive) เช่น CPNREIT , TISCO รวมถึงหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวและราคาลงมามาก เช่น COM7 , MTC, CHAYO