ARIP คาดรายได้ปี 63 โต 20-30% พร้อมเดินหน้าจัดงาน COMMART เดือนมี.ค.นี้ วางเป้ายอดขายในงานเพิ่มเป็น 3.2 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 4, 2020 18:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุญเลิศ นราไท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เออาร์ไอพี (ARIP) กล่าวว่า บริษัทคาดรายได้ปี 63 จะเติบโต 20-30% จากปีก่อน โดยรายได้ในช่วง 9 เดือนของปี 62 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 112.19 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจการจัดงานนิทรรศการ งานแสดงสินค้า โดยเฉพาะงาน COMMART และการจัดประชุมสัมมนา ที่มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 40% และงานภาครัฐ ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้มีการทยอยเซ็นสัญญาเพื่อเข้าไปรับงานการพัฒนาแพลตฟอร์มให้กับหน่วยงานภาครัฐ คาดมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 30% ส่วนอีก 30% จะมาจากธุรกิจสื่อดิจิทัลและสื่ออื่นๆ

ในช่วงไตรมาสแรกของ 63 บริษัทเตรียมจัดงานจัดงานแสดงนวัตกรรมทางเทคโนโลยี COMMART ภายใต้ชื่อ COMMART X PRO 2020 โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 มี.ค.63 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึ่งจะชูกลยุทธ์สร้างประสบการณ์ O2O (Online to Offfline) ร่วมกับแบรนด์สินค้าไอทีชั้นนำ เชื่อมโยงข้อเสนอพิเศษจากในออนไลน์ เพื่อดึงดูดคนมาที่งาน ด้วยกิจกรรมมากมาย ตั้งเป้ามียอดขายภายในงานดังกล่าวเติบโตเป็น 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการจัดงานในปีก่อนอยู่ที่ 3 พันล้านบาท แม้คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานลดลงเล็กน้อย จากปีก่อนอยู่ที่ 800,000 คน แต่ผู้เข้าชมที่มาในงานครั้งนี้จะเป็นคนที่เข้ามาซื้อของอย่างแท้จริง ทำให้น่าจะมีเงินสะพัดเพิ่มขึ้น และน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการไตรมาส 1/63 เติบโตดีกว่าไตรมาส 1/62

สำหรับสินค้าที่น่าสนใจภายในงานจะมีทั้ง โน้ตบุ๊ค, พีซี, มือถือ, เช่น ซัมซุงกาแล็คซี่ S20 ที่กำลังจะเปิดตัวในเดือนก.พ.นี้ และ Laptop Intel Gen10 ที่มีโอกาสปรับราคาลง รวมถึงยังมี Comportment หรือ DIY หรือคอมพิวเตอร์ประกอบ ที่จะมีทั้งซีพียูและการ์ดจอเปิดตัวซีรี่ย์ใหม่หลายรุ่น อย่างไรก็ตามการจัดงาน COMMART ในปีนี้ บริษัทยังคงจัดงานจำนวน 3 ครั้งเหมือนกับทุกปี แบ่งเป็นในเดือนมี.ค.63, เดือนก.ค.63 และปลายเดือนต.ค. ถึงต้นเดือนพ.ย. 63

"เรายังเชื่อมั่นว่ายังมีความต้องการซื้อในสินค้าไอทีอยู่ โดยในงานคอมมาร์ตครั้งนี้ เราได้ร่สมกับพันธมิตรชั่นนำด้านไอทีหลายค่าย และจะมีโปรโมชั่นมากมายภายในงาน ซึ่งเราเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานและเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมไอทีให้คุกคักมากขึ้น"นายบุญเลิศ กล่าว

นอกจากนี้ภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีปีนี้ ในช่วงต้นปีทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้มีการประเมินว่าอุตสาหกรรมไอทีในประเทศไทยปีนี้น่าจะดีขึ้น จากที่มีเทคโนโลยี 5G เข้ามา แต่หลังจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และจีนสั่งปิดเมือง ทำให้ผู้ผลิตสินค้าไอทีของจีนต้องหยุดดำเนินกิจการชั่วคราว มองว่าน่าจะส่งผลกระทบกับสินค้าที่รองรับเทคโนโลยี 5G ดีเลย์ออกไป เนื่องจากสินค้าไอทีส่วนใหญ่มาจากจีนที่เป็นผู้ผลิตหลัก

โดยเบื้องต้นผลกระทบดังกล่าวยังประเมินความเสียหายได้ยาก แต่ในระยะสั้นน่าจะทำให้สินค้าไอทีรุ่นใหม่ขาดตลาด และจะมีการทำโปรโมชั่นที่ดุเดือดในสินค้าไอทีรุ่นเดิม และอัพราคาเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนต้องแบกรับการซื้อสินค้าที่มีราคาแพง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ