ดัชนีกลุ่มไฟแนนซ์ บวก 1.20% มาอยู่ที่ 4,556.46 จุด เพิ่มขึ้น 53.93 จุด โดยกลุ่มเช่าซื้อ-ลิสซิ่ง ขยับขึ้นยกแผง เมื่อเวลา 14.28 น.นำโดยหุ้น AMANAH บวก 2.53% มาอยู่ที่ 3.24 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 28.76 ล้านบาท
หุ้น AEONTS บวก 2.27% มาอยู่ที่ 158.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 69.82 ล้านบาท
หุ้น ECL บวก 7.27% มาอยู่ที่ 1.18 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 8.15 ล้านบาท
หุ้น JMT บวก 2.80% มาอยู่ที่ 22 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 94.58 ล้านบาท
หุ้น KTC บวก 2.16% มาอยู่ที่ 35.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 83.62 ล้านบาท
หุ้น MTC บวก 1.15% มาอยู่ที่ 66.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 153.86 ล้านบาท
บ่ายนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.00% เนื่องจาก กนง.เห็นว่าเสถียรภาพการเงินเปราะบางมากขึ้น จำเป็นต้องประสานมาตรการการเงินการคลัง โดยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวต่ำกว่าประมาณการ จึงเห็นว่านโยบายผ่อนคลายทางการเงินจะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยลบต่าง ๆ ทั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ภัยแล้ง และความล่าช้าของ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563
ด้านบล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า กลุ่มเช่าซื้อ-ลิสซิ่ง เป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และยังมีแรงหนุนจากการลดดอกเบี้ย เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่มีโครงสร้างสินเชื่อที่เป็นอัตราคงที่สูง (ยกเว้น IFS) ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมของกลุ่มฯ ส่วนใหญ่เป็นหุ้นกู้หรือเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ ดังนั้น เมื่อดอกเบี้ยปรับตัวลดลงทำให้ต้นทุนของกลุ่มเช่าซื้อถูกลง
โดยชื่นชอบ บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC)(ให้ราคาเป้าหมาย 71 บาท) มากสุดในกลุ่มฯ โดยคาดว่าธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถของบริษัท ยังเติบโตได้ จากความต้องการใช้เงินเพิ่มขึ้นในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่ต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายจะทยอยลดระดับลง จากการออกหุ้นกู้ใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า 3.5% เพื่อเพิ่มการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ รวมถึงทดแทนหุ้นกู้ที่ใกล้จะครบกำหนดในปี 2563 มูลค่ารวมกว่า 8.7 พันล้านบาท ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยสูงระหว่าง 3.6-4.2%