นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์ (GLOCON) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ภายในปี 63 จาก 9 เดือนของปี 62 มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 38.08 ล้านบาท และตั้งเป้าล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 794.83 ล้านบาทให้หมดเกลี้ยงภายใน 2-3 ปี เป็นผลจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บริษัทตั้งเป้าในปีนี้จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 88% มาอยู่ที่ 2,262 ล้านบาท จากปีก่อนที่คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 1,205 ล้านบาท โดย 9 เดือนของปี 62 มีรายได้แล้ว 889.5 ล้านบาทเป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจอาหาร (Food) ที่ตั้งเป้ารายได้ 1,108.40 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 392.40 ล้านบาท ประกอบด้วย อาหารแช่งแข็งที่คาดว่าจะมีรายได้ 509.4 ล้านบาท เติบโต 30% จากปี 62 ที่มีรายได้ราว 400 ล้านบาท ตามการขยายตลาดส่งออกไปในประเทศใหม่ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา, แอฟริกา และแคนาดา เป็นต้น จากปัจจุบันที่ส่งออกไป ญี่ปุ่น เกาหลี และยุโรป ทำให้มีสัดส่วนการส่งออก 20% ของยอดขายอาหารแช่แข็งทั้งหมด
นอกจากนี้ ธุรกิจผลไม้อบแห้ง (Dried fruit) คาดมีรายได้อยู่ที่ 599 ล้านบาท จากการขยายตลาดไปยังตลาดใหม่ เช่น จีน, กัมพูชา, ลาว, เมียนมา ,เวียดนาม และสหรัฐฯ รวมถึงประเทศแถบยุโรป จากฐานตลาดเดิมที่มีอยู่ในเนเธอร์แลนด์, รัสเซีย, เยอรมนี, โรมาเนีย เป็นต้น
สำหรับธุรกิจผลไม้อบแห้งนั้น บริษัทได้เข้าลงทุน 51% ในบริษัท ฟรุตตี้ดราย จำกัด (FD) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลไม้อบแห้ง และการเข้าซื้อธุรกิจผลไม้อบแห้งจากบริษัท ไวต้า ฟู้ด แฟคทอรี่ (1989) จำกัด โดยจะให้ FD บริหารจัดการธุรกิจดังกล่าว ซึ่งจะทำให้สามารถรับรู้กำไรจากการประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลไม้อบแห้งเข้ามาในปีนี้ทันที ผลักดันผลประกอบการของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในแง่ของกำไร เนื่องด้วยอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ของธุรกิจดังกล่าวค่อนข้างดี มีอัตรากำไรขั้นต้นกว่า 35% และอัตรากำไรสุทธิกว่า 20% ทำให้ภาพรวมน่าจะดีขึ้น
พร้อมกันนี้ ธุรกิจร้านอาหาร บริษัทคาดว่าในปีนี้จะมีรายได้เติบโต 20% เป็น 230 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 192.10 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้หลัก 80% ของธุรกิจร้านอาหารยังคงมาจากร้าน A&W ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 189 ล้านบาท จากการขยายสาขาเพิ่มอีก 10-15 สาขา เน้นทำเลใกล้สถาบันการศึกษา พร้อมทั้งจะขยายช่องทางขายในร้านสะดวกซื้อ และลดสาขาที่ขาดทุนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากค่าเช่าที่แพง
รวมทั้งมีแผนขยายเมนูประเภทข้าว ซึ่งปัจจุบันธุรกิจอาหารพร้อมรับประทานที่จำหน่ายในคอนวีเนียนสโตร์เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็น 2 เท่าตัว และมีมากกว่า 10 เมนู และร้าน Kitchen Plus (KP) หรือข้าวแกงบ้านครัวไทย คาดมีรายได้อยู่ที่ 41.60 ล้านบาท ซึ่งจะขยายสาขาไซด์เล็กเพิ่มอีก 1-2 สาขา
นายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 724 ล้านบาท เติบโต 24-25% จากปี 62 ที่มีรายได้รวม583.10 ล้านบาท หลังจากปรับกลยุทธ์ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพการผลิต โดยเฉพาะกลุ่มพลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ที่มีแนวโน้มโดดเด่นและกำไรดี รวมทั้งมีแนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นวัสดุย่อยสลายได้ อย่างไรก็ดี บริษัทมองหาโอกาสการเติบโตในทุกรูปแบบ ทั้งการลงทุนร่วมกับพันธมิตร, การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ รวมไปทั้งโปรเจ็คต์อื่นๆในอนาคตโดยมุ่งเน้นไปที่สินค้าที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง
ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหาร เพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิมอยู่ที่ 50% และธุรกิจบรรจุภัณฑ์อยู่ที่ (Non-Food) อยู่ที่ 40%