นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซีพี ออลล์ (CPALL) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการเปิดสาขาในประเทศเวียดนามจำนวน 10-20 แห่งในเบื้องต้น เนื่องจากมองว่าประเทศเวียดนามมีการเติบโตที่ดี และขณะนี้ก็มีนักลงทุนเข้าไปลงทุนกันมาก
บริษัทยังเตรียมที่จะออกโรดโชว์ที่ฮ่องกง ซึ่งเป็นการเดินทางไปกับเครดิตสวิส เฟิร์ส บอสตัน และการไปครั้งนี้เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน เพราะที่ผ่านมาจากการไปออกโรดโชว์ก็จะมีนักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุน
CPALL คาดว่าในปีนี้จะมียอดขายเติบโต 13-15% จากปี 50 ที่มีรายได้รวม 1.15 แสนล้านบาท โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากสาขาที่จะเปิดใหม่อีก 450 สาขา จากสาขาเดิมที่มีอยู่ทั้งสิ้นในปัจจุบันมี 4,730 สาขา รวมทั้งการขยายธุรกิจประเภทเบเกอร์รี่และอาหารเพิ่มขึ้น ซึ่งในสองตัวนี้จะให้มาร์จินที่ดีแก่บริษัทฯ
นอกจากนั้น หลังจากเดือน พ.ค.51 บริษัทไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจากโลตัสที่ประเทศจีนอีกต่อไป จะทำให้กำไรของบริษัทมีการปรับตัวดีขึ้น และคาดว่าจะเห็นผลกำไรชัดเจนในปี 52 โดยปัจจุบันมีผลขาดทุนอยู่ 3 พันล้านบาท ซึ่ง CPALL จะต้องรับรู้ผลขาดทุนในสัดส่วนที่ถือหุ้นอยู่ 50%
นายปิยะวัฒน์ กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งงบลงทุน 3.3 พันล้านบาทในปีนี้ โดยจะแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ การเปิดสาขาใหม่จำนวน 450 สาขา ใช้เงิน 1.4 พันล้านบาท, ปรับปรุงสาขาที่มีอยู่ 600 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้ลงทุนในการขยายคลังสินค้าเพิ่ม 2 แห่งคือ ที่สุราษฎร์ธานีและขอนแก่น และ ใช้เงินลงทุนรวม 500 ล้านบาท และงบลงทุนส่วนที่เหลือก็จะใช้ในการลงทุนในซอฟท์แวร์ และส่วนอื่น ๆ
ทั้งนี้ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าบริษัทฯจะขยายคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่งที่จังหวัดลำปาง จากปัจจุบันที่มีคลังสินค้าเฉพาะในกรุงเทพ ที่ลาดกระบัง และรัตนาธิเบศร์
"การที่มีคลังสินค้าเฉพาะที่กรุงเทพเพียงแห่งเดียว ทำให้การขนส่งสินค้ามีความล่าช้า และไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าในการซื้อ ซึ่งการมีคลังสินค้าที่อื่นถือได้ว่าเป็นการลดต้นทุนในด้านการขนส่ง"นายปิยะวัฒน์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/พรเพ็ญ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--