ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นกลุ่มการเงิน ถ่วงฟุตซี่ปิดลบ 87.1 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) จากแรงขายที่ส่งเข้าฉุดหุ้นกลุ่มการเงิน เนื่องจากควมวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยลบจากดัชนีดาวโจนส์ที่ร่วงลงกว่า 200 จุด
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 87.1 จุด แตะระดับ 5,766.4 จุด หลังจากเคลื่อนไหวในช่วง 5,753.1-5,871.1 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.33 พันล้านหุ้น
          เดวิด อีแวนส์ นักวิเคราะห์จาก BetOnMarkets.com กล่าวว่า "ภาวะผันผวนในตลาดปล่อยกู้จำนองยังคงสร้างความวิตกกังวลในตลาด โดยล่าสุดสมาคมธนาคารด้านการจำนองแห่งสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราการยึดบ้านที่หลุดจำนองปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 4 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในขอบเขตที่กว้างขึ้น"
          หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นเอฟแอนด์ซี แอสเซท ดิ่งลง หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรหลังหักภาษีประจำปี 2550 เพียง 25.9 ล้านปอนด์ ลดลงจากปี 2549 ที่ 30.5 ล้านปอนด์ หุ้นเฟรนด์ส โพรวิเดนท์ ร่วงลง 6 เพนซ์ ปิดที่ 121.5 เพนซ์ หุ้นสแตนดาร์ด ไลฟ์ ร่วงลง 6.5 เพนซ์ ปิดที่ 209.5 เพนซ์ และหุ้นโอลด์ มิวช่วล ลดลง 6.9 เพนซ์ ปิดที่ 115.1 เพนซ์
          หุ้นบริติช แอร์เวยส์ ร่วงลง 20 เพนซ์ ปิดที่ 245 เพนซ์ หลังจากทางสายการบินคาดการณ์ว่าต้นทุนเชื้อเพลิงในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 30 ล้านปอนด์ หรือ 20% สู่ระดับ 2.5 พันล้านปอนด์
          อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้นสวนทางการติดลบของตลาด หลังจากบริษัทคาร์ฟูร์ บริษัทเอโฮล์ด และบริษัทเดลเฮซ เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยหุ้นเทสโกพุ่งขึ้น 11 เพนซ์ ปิดที่ 403 เพนซ์ หุ้นแซนบิวรี ทะยานขึ้น 4 เพนซ์ ปิดที่ 351 เพนซ์ และหุ้นมอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เกตส์ ดีดขึ้น 1 เพนซ์ ปิดที่ 295 เพนซ์