ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,534.02 จุด ลดลง 1.77 จุด (-0.12%) มูลค่าซื้อขาย 27,940.04 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,539.36 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,532.44 จุด
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบเล็กน้อย โดยยังต้องติดตามสถานการณ์ไวรัสโคโรนา ซึ่งตอนนี้จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้น แต่จำนวนผู้ต้องสงสัยจะติดเชื้อได้ชะลอลงแล้ว รวมถึงจำนวนผู้ได้รับการรักษาและหายดีก็เพิ่มขึ้นมาก
ส่วนบ้านเราก็กำลังรอลุ้นผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่ได้นัดลงมติว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ตราขึ้น โดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในช่วงบ่ายวันนี้ (7 ก.พ.) ทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อขาย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายชัยยศ กล่าวว่า หากผลการตัดสินของศาลฯยังไม่ออกมา ตลาดฯก็คงจะแกว่งแคบไปก่อน ซึ่งทิศทางตลาดฯก็ขึ้นอยู่กับผลการตัดสินของศาลฯ โดยได้ประเมินผลการตัดสินออกมา 3 แบบ แบบแรกถ้าผลตัดสินไม่โมฆะ ให้ใช้งบประมาณปี 63 ได้ ตรงนี้จะดีมาก ตลาดฯจะบวกตอบรับขึ้นไปทดสอบแนว 1,545-1,550 จุด
แบบที่ 2 หากผลการตัดสินของศาลฯออกมาเป็นโมฆะบางมาตรา ก็จะมองเป็นกลาง ดัชนีฯก็อาจจะสวิงตัวในกรอบคล้ายคลึงช่วงเช้า บริเวณ 1,530-1,540 จุด และหากคำตัดสินของศาลฯออกมาตกไปเลย ตรงนี้จะไม่ดี ตลาดฯมีโอกาสลงไปทดสอบ 1,520 จุดได้
พร้อมกันนี้สัปดาห์หน้าให้ติดตามการประมูล 5G และติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เริ่มจะออกมามากขึ้น
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,495.82 ล้านบาท ปิดที่ 199.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 1,875.86 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,350.48 ล้านบาท ปิดที่ 71.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 1,283.53 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,266.73 ล้านบาท ปิดที่ 77.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท