นายเกษมสันต์ วีระกุล ประธานกรรมการ บมจ. ซีเอ็ดยูเคชั่น (SE-ED) กล่าวว่า ในปี 63 บริษัทจะมีการพัฒนาช่องทางการขายแบบออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่กันไป แม้ว่าปัจจุบันการซื้อหนังสือของคนไทยยังให้ความสำคัญกับการซื้อหนังสือผ่านร้านค้ามากกว่าบนช่องทางออนไลน์ ซึ่งในส่วนของสาขาร้านซีเอ็ด บริษัทจะการขยายสาขาร้านหนังสือซีเอ็ดเพิ่มอีก จากปัจจุบันมีอยู่กว่า 300 สาขา โดยจะเน้นขยายในตลาดต่างจังหวัดที่ยังมีโอกาสในการขยายตลาดได้อยู่ ซึ่งจะต้องปรับรูปร้านให้เหมาะสมกับในแต่ละทำเลที่ไปเปิด และเพิ่มอุปกรณ์เพื่อการศึกษามากขึ้น และการเป็นพันธมิตรกับร้านหนังสือ Kyobo ประเทศเกาหลี เป็นเชื่อมโยงธุรกิจซึ่งกันและกัน เช่น การเพิ่มความหลากหลายสินค้า และเพิ่มศักยภาพของระบบโลจิสติกส์
ในส่วนของช่องทางออนไลน์จะมีการปรับระบบเว็บไซต์ทั้งหมดให้ดีและเป็นสากลมากขึ้น รวมถึงการมี Digital Platform ที่ทันสมัย เช่น ระบบการสั่งซื้อหนังสือให้ดีขึ้น การใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาพัฒนาระบบ หรือการปรับตัวหนังสือในแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ใหญ่ขึ้นเพื่อเหมาะกับคนสูงวัย และร่วมสำนักพิมพ์ทั่วประเทศเพื่อตั้งแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซกลางขายหนังสือ โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวคาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาส 3/63 อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อกระตุ้นให้คนไทยหันมาอ่านหนังสือมากขึ้น และเป็นการทำการตลาดที่ทำให้แบรนด์ซีเอ็ดมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้บริษัทยังต้องควบคุมต้นทุนต่างๆให้ประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในความท้าทายของธุรกิจร้านหนังสือที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่บริษัทเชื่อว่าพฤติกรรมคนไทยยังอ่านหนังสือที่เป็นเล่มมากกว่าการอ่านหนังสือจาก E-Book ทำให้ร้านหนังสือยังคงอยู่ได้ แต่ต้องมีการปรับตัวให้มีความทันสมัย และเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า อย่างเช่น พฤติกรรมของคนยุคใหม่จะให้ความสำคัญกับหนังสือดีมีคุณภาพและการดีไซน์ปกที่เหมาะกับกลุ่มผู้อ่านมากขึ้น ทำให้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับการจัดวางหนังสือ และคัดเลือกคุณภาพของหนังสือมาจำหน่าย