KK เพิ่มทุนเป็น 7.2 พันลบ.,ขายหุ้นกู้ยอดคงค้างแต่ละขณะไม่เกิน3หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 7, 2008 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          คณะกรรมการ ธนาคาร เกียรตินาคิน (KK) มีมติเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของธนาคาร จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 7,154,600,300 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 6,978,455,710 บาท แบ่งออกเป็น 697,845,571 หุ้น ด้วยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้นำออกจำหน่ายจำนวน 17,614,459 หุ้น ซึ่งเป็นหุ้นเพื่อรองรับการใช้สิทธิของหุ้นกู้แปลงสภาพที่ครบกำหนดอายุแล้วจำนวน 7,818,855 หุ้น และหุ้นคงเหลือจากการจัดสรรเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 9,795,604 หุ้น ตามมติที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 30 ประจำปี 2543 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2543
และมีมติเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของธนาคารอีกจำนวน 250,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 6,978,455,710 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 7,228,455,710 บาท แบ่งออกเป็น 722,845,571 หุ้น โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 25,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 25,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของธนาคาร ซึ่งออกให้แก่กรรมการ และ/หรือพนักงานของธนาคาร และ/หรือบริษัทย่อย (ESOP Warrants)
การออกหุ้นเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน จะทำให้ธนาคารจะมีเงินกองทุนที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของธนาคาร และเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่กรรมการและพนักงาน ช่วยรักษาพนักงานที่มีคุณภาพให้ทำงานอยู่กับธนาคารและช่วยกันพัฒนาธนาคารให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น
นอกจากนี้ อนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ โดยกำหนดยอดคงค้างแต่ละขณะไม่เกิน 30,000 ล้านบาท หรือเงินสกุลต่างประเทศอื่นในจำนวนเงินที่เท่ากัน โดยธนาคารอาจออกและเสนอขายหุ้นกู้ในคราวเดียวกันหรือต่างคราวกัน อายุหุ้นกู้ไม่เกิน 10 ปี
ทั้งนี้ การเสนอขาย จะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป (Public Offering) ให้กับผู้ลงทุนในประเทศ และ/หรือให้แก่ผู้ลงทุนในต่างประเทศ และ/หรือ (2) เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง และ/หรือผู้ลงทุนประเภทสถาบันหรือที่มีลักษณะเฉพาะ (Private Placement) ให้กับผู้ลงทุนในประเทศ และ/หรือให้แก่ผู้ลงทุนในต่างประเทศ
พร้อมทั้ง อนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2550 ในอัตราหุ้นละ 2.30 บาท ซึ่งได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 1.00 บาท เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2550 คงเหลือจ่ายในงวดนี้อีกหุ้นละ 1.30 บาท ให้กับผู้ถือหุ้นของธนาคารตามรายชื่อที่ปรากฏในวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 28 มีนาคม 2551 เวลา 12.00 น. และกำหนดจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 2 พฤษภาคม 2551 โดยไม่ขอจัดสรรเงินกำไรไว้เป็นทุนสำรองตามกฎหมาย เนื่องจากธนาคารได้จัดสรรเงินกำไรไว้เป็นทุนสำรองครบร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียนตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ