ดัชนีกลุ่มแบงก์ ร่วง 1.75% มาที่ 403.88 จุด หรือลดลง 7.20 จุด นำโดยหุ้นธนาคารกรุงเทพ (BBL) ลดลง 2 บาท หรือ 1.35% มาที่ 146.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1,003.64 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.44 น. ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 149.50 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 150.50 บาท และต่ำสุดที่ 146.50 บาท
หุ้น BAY อยู่ที่ 28.00 บาท ลดลง 0.75 บาท (-2.61%)
หุ้น KBANK อยู่ที่ 140.00 บาท ลดลง 3.50 บาท (-2.44%)
หุ้น KTB อยู่ที่ 16.10 บาท ลดลง 0.10 บาท (-0.62%)
หุ้น SCB อยู่ที่ 97.75 บาท ลดลง 2.75 บาท (-2.74%)
บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมออกแนวทางการคำนวณอัตราค่าธรรมเนียมของสถาบันการเงินช่วงไตรมาส 3/63 เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดค่าธรรมเนียมอย่างสมเหตุสมผล และเป็นธรรม โดยแนวทางดังกล่าวจะครอบคลุมค่าธรรมเนียมทุกประเภทนั้น ส่ง Sentiment เชิงลบต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่อาจจะปรับตัวลดลงอีก หลังก่อนหน้านี้ทาง ธปท.ได้ออกเกณฑ์ปรับปรุงค่าธรรมเนียมใหม่ส้าหรับลูกค้า SME อย่างไรก็ตามยังต้องรอรายละเอียดของแนวทางใหม่ก่อน
ด้าน บล.ไอร่า แนะนำระมัดระวังแรงขายหุ้นในกลุ่มธนาคารอีกครั้ง หลัง ธปท. ออกมาส่งสัญญาณเตรียมปรับค่าธรรมเนียมธนาคารครอบคลุมกว่า 300 รายการ (ครอบคลุมค่า Fee ทุกประเภท) และจะเตรียมออกข้อปฏิบัติในไตรมาส 3/63 ซึ่งคาดจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของในกลุ่มธนาคารกดดันราคาหุ้นปรับตัวลงถ่วงตลาดได้
หนังสือพิมพ์รายงานวันนี้ โดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของนางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธปท. ที่ระบุว่า ธปท.จะออกประกาศแนวปฏิบัติ (ไกด์ไลน์) การคำนวณอัตราค่าธรรมเนียมของสถาบันการเงินทั้งระบบ ภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ เพื่อเป็นแนวทางให้สถาบันการเงินใช้ในการกำหนดค่าธรรมเนียมอย่างสมเหตุสมผลและเป็นธรรม
สำหรับแนวปฎิบัติดังกล่าวจะครอบคลุมค่าธรรมเนียมทุกประเภท ในทุกกลุ่มธุรกิจทั้งธุรกิจลูกค้ารายใหญ่ ลูกค้าขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ตลอดจนลูกค้ารายย่อย รวมไปถึงการคิดค่าธรรมเนียมทั้งหมดประมาณ 200-300 รายการ หลังจากที่ผ่านมามีการให้แบงก์ปรับค่าธรรมเนียมไปแล้ว 3-4 รายการ ซึ่งถือเป็นการนำร่องก่อนการประกาศใช้แนวทางการคิดค่าธรรมเนียมทั้งระบบของ ธปท.