นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุมกรรมการกสทช.วันนี้ พิจารณาการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนในการเรียกคืนคลื่นความถี่ 2600 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ให้บมจ.อสมท (MCOT) หลังจากคณะกรรมการได้มอบหมายให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาเพิ่มเติมค่าเสียโอกาส โดยคณะกรรมการ กสทช.ได้เห็นชอบรายงานของจุฬาฯที่ให้เยียวยา เป็นเงิน 6,685.1 ล้านบาท บนระยะเวลาสัมปทาน 15 ปี ซึ่งเป็นแนวทางที่ดีที่สุด
ทั้งนี้ จุฬาฯ ทำรายงานให้มีทางเลือกในการเยียวยา 3 แนวทาง คือ หากพิจารณาโดยถือว่ามีระยะเวลาการถือครองคลื่นความถี่ที่ประกอบกิจการ 15 ปี มี 3 แนวทาง โดยแนวทางแรก ชดเชย 1,573.4 ล้านบาท แนวทางที่สอง ชดเชย 3,809.8 ล้านบาท และ แนวทางที่สาม ชดเชย 6,685.1 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีคณะกรรมการ กสทช.ยังมีความเห็นไม่ตรงกันในส่วนของระยะเวลาการถือครองคลื่นความถี่ จึงให้อนุกรรมการที่ปรึกษากฎหมายพิจารณาอีกครั้งว่าระยะเวลาในการถือครองคลื่นควรเป็นเท่าใดว่าจะเป็น 15 ปี หรือ 13.5 ปี หรือ 10 ปี โดยหากเลือกระยะเวลาสัมปทานที่น้อยลง ก็จะจ่ายเงินชดเชยน้อยลงตามลำดับด้วย
ส่วนการเยียวให้ผู้ได้รับผลกระทบรายอื่น อย่างบริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด คู่สัญญา ซึ่งเป็นผู้บริหารโครงการบนคลื่นความถี่ดังกล่าวนั้น ให้อนุกรรมการที่ปรึกษากฎหมายพิจารณาว่าควรใช้วิธีการแบ่งค่าชดเชยโ ดยให้บมจ.อสมท แบ่งให้บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัดเอง หรือให้กสทช.เป็นผู้กำหนดแบ่งค่าชดเชย ซึ่งอนุกรรมการเยียวยาเสนอแบ่งกันคนละครึ่ง ทั้งนี้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดก่อนการประมูลคลื่นความถี่วันที่ 16 ก.พ. นี้
นายฐากร กล่าวว่า ตัวเลขเยียวยา ที่ออกมา 6,685.1 ล้านบาท คิดเป็น 24.59% ของมูลค่าตั้งต้นประมูลคลื่นความถี่ 2600 MHz ที่กสทช. โดย MCOT มีจำนวนคลื่นดังกล่าวอยู่ 146 MHz
"ความเห็นเรื่องระยะเวลาที่มีความเห็นต่างกันเพราะแผนแม่บทกำหนดว่า 10 ปี แต่ อสมท.ทำเรื่องเสนอมา 15 ปี ทั้งนี้ เมื่ออนุมัติหลักการแล้วคงเหลือแต่ส่วนที่จะแบ่งการเยียวยากับผู้ได้รับผลกระทบอย่างไร"นายฐากร กล่าว
ทั้งนี้ กสทช.จะจ่ายเงินเยียวยาให้ MCOT สอดคล้องกับการรับเงินประมูลคลื่นจากโอเปอเรเตอร์ โดยจะจ่ายปีแรก 302 ล้านบาท ยกเว้นการจ่ายปีที่ 2-4 และจะจ่ายในปีที่ 5-10 ปีละ 1,063.8 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หาก MCOT ไม่พอใจกับเงินเยียวยาดังกล่าว ก็ให้ไปฟ้องศาลฯได้
หุ้น MCOT ช่วงบ่าย อยู่ที่ 10.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.65 บาท หรือ 6.88%