นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) เปิดเผยว่า งวดปี 62/63 (ต.ค.62-ก.ย.63) บริษัทยังตั้งเป้าขายสินทรัพย์ให้แก่กองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT) มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท
ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมของบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบัน FPT มีอัตราการเช่าพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มสูงขึ้นถึง 82% นอกจากนี้ ยังมีความต้องการคลังสินค้าแบบ Build-to-Suit ทั้งจากการขยายธุรกิจของกลุ่มผู้เช่าเดิม และ ดีมานด์ใหม่จากกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่หมุนเวียนเร็ว (Fast Moving Consumer Goods – FMCG) อีคอมเมิร์ซ และอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีบทบาทในการขับเคลื่อนธุรกิจในช่วงนี้ นอกจากนั้นในปีนี้บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานตามเป้าโดยเฉพาะการพัฒนาโครงการ Build-to-Suit รวมทั้งสิ้น 150,000 ตารางเมตร
นอกจากนี้ FPT ยังเตรียมบันทึกกำไรจากการขายที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้แก่กลุ่มบริษัท ไมเดีย จากประเทศจีน เพื่อพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุดของไมเดียนอกประเทศจีน และยังเตรียมเปิดที่ดินเพิ่มเติมในบริเวณใกล้เคียง พร้อมรองรับความต้องการของซัพพลายเชนของกลุ่มไมเดียที่จะย้ายฐานการผลิตมาประเทศไทยอีกจำนวนมาก
กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม โชว์ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 62/63 (ต.ค.-ธ.ค.62) แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการรวม 442 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.60% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่อาคารโรงงานสูงสุดในรอบ 5 ปี จาก 72% ในปีที่ผ่านมา เป็น 75% และ มีอัตราการเช่าพื้นที่คลังสินค้าสูงขึ้นอย่างน่าพอใจ จาก 81% ในปีก่อน เพิ่มขึ้นเป็น 86% รับอานิสงส์จากการพัฒนาพื้นที่อีอีซี และการโยกย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนในช่วงที่ผ่านมา
กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย สร้างรายได้รวม 3,546 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 62/63 ปรับตัวลงเล็กน้อย 5.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากภาวะตลาดภายหลังมาตรการคุมเข้มสินเชื่อที่อยู่อาศัย LTV อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลกระทบอาจคลี่คลายลงหลังจากการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา โดยในเดือนธันวาคม 2562 โกลเด้นแลนด์มียอดขายพรีเซลล์รวมมูลค่า 7,100 ล้านบาท จากโครงการที่ดำเนินการอยู่ 58 โครงการ และมียอดบ้านที่ได้รับการจองแล้วและรอโอน อยู่ที่ 3,654 ล้านบาท
กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ มีการเติบโต 5.34% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากรายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นของอาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ และโครงการสามย่านมิตรทาวน์
อนึ่ง งบการเงินรวมของ FPT สำหรับไตรมาส 1 ของปี 62/63 มีรายได้รวม 4,609 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 282.59 ล้านบาท โดยในไตรมาสนี้หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จะไม่มีรายการขายทรัพย์เข้ากองทรัสต์ ดังนั้น หลังปรับรายการขายทรัพย์ดังกล่าวในปีที่แล้วเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 62/63 แล้ว รายได้รวมจะลดลงเพียงเล็กน้อยที่ 3.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งนี้จากการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัย
"ไตรมาส 1 นับเป็นการเริ่มต้นปี 63 ที่แข็งแกร่ง ด้วยผลการดำเนินงานเกินความคาดหมาย โดย FPT จะเดินหน้าพัฒนาโครงการมูลค่าสูงหลากหลายโครงการอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมองหาโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติม และสร้างสรรค์มูลค่าเพิ่มทางธุรกิจร่วมกันกับโกลเด้นแลนด์ ซึ่งจะสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท" นายโสภณ กล่าว