KTB คาด ธปท.ปรับเกณฑ์คิดค่า Fee กระทบรายได้ค่าธรรมเนียมเล็กน้อย, คงเป้าสินเชื่อปีนี้โต 3-5% แม้เผชิญปัจจัยเสี่ยง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 13, 2020 15:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายผยง ศรีวนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมปรับการคิดคำนวณค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์ให้เป็นธรรมกับผู้บริโภค มองว่าส่งผลกระทบต่อรายได้ค่าธรรมเนียมของอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด แต่ในส่วนของธนาคารคาดว่าจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์รายอื่น เนื่องจากสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารมีสัดส่วนไม่มาก เมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์รายอื่น และรายได้ค่าธรรมเนียมที่จะมีผลกระทบมากจะเป็นธุรกิจบัตรเครดิต ซึ่งในส่วนนี้ไม่ได้เป็นผลกระทบต่อธนาคารโดยตรง ทำให้ธนาคารไม่ได้ผลกระทบในเรื่องดังกล่าวมากนัก

อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอดูการพิจารณารายละเอียดของ ธปท.ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารได้ส่งข้อมูลและเข้าไปพูดคุยกับธปท.อย่างต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารยังต้องรอการพิจารณาจากธปท.ที่ชัดเจนอีกครั้ง แต่ธนาคารเชื่อว่าผลกระทบดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบให้รายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารติดลบ

ด้านภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เผชิญกับปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น ส่งผลให้หลายๆธนาคารปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปีนี้ลดลงตั้งแต่ต้นปี ส่งผลให้ทุกๆธนาคารพาณิชย์จะต้องประคับประคองการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างดีที่สุด แม้ว่าจะมีความท้าทายอยู่มาก ซึ่งธนาคารยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อในปีนี้ไว้ที่เติบโต 3-5%

"เศรษฐกิจยังคงเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา จะให้เป้าหมายธนาคารฝืน GDP คงเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ทุกคนต้องประคับประคองธุรกิจและลูกค้า แต่ยังมีปัจจัยหนุนจากงบประมาณภาครัฐที่รอเบิกจ่ายมา 2 ปี เข้ามาช่วยขับเคลื่อน เบื้องต้นธนาคารไม่ได้ปรับเป้าหมายสินเชื่อลงในตอนนี้ แต่ยังไงเราก็ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด"นายผยง กล่าว

ส่วนแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ธนาคารได้มีการปรับโครงสร้างในเชิงรุก เพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์ระดับมหภาคที่เกิดขึ้นอย่าง เช่น การลดภาระหนี้ และการผ่อนชำระหนี้ เพื่อสร้างวินัยทางการเงินที่ดี แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้ม NPL และการตั้งสำรอง คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของธนาคารอย่างมีนัยสำคัญ รวมไปถึงมาตรฐานบัญชีใหม่ (TFRS9) ที่จะไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานของธนาคาร เพราะระดับสำรองที่ธนาคารมีอยู่ในระดับสูงเพียงพอ และครอบคลุมเกณฑ์ใหม่ โดยที่ปัจจุบันธนาคารมีอัตราค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) อยู่ที่มากกว่า 130%

สำหรับกรณีหนี้ของ บมจ.เอ คิว เอสเตท (AQ) ปัจจุบันธนาคารอยู่ระหว่างดำเนินการชั้นศาล โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปกลางเดือนก.พ.นี้ และ คาดว่าจะบันทึกรายได้ดอกเบี้ยรับจากสินเชื่อ AQ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการบันทึกไปแล้วราว 3.9 พันล้านบาทในไตรมาส 1/62 และส่วนที่เหลือหลังศาลตัดสินแล้วคาดว่าจะบันทึกเข้ามาในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ