นายซิลวี อูเซียล ประธานกรรมการสากล เอ็นวิชั่น ดิจิทัล อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ลงนามกับบมจ.ปตท. (PTT) ในการพัฒนาระบบ "AIoT SMART GRID" ที่ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) โดยใช้ระบบปฏิบัติการ AIoT จาก เอ็นวิชั่น ดิจิทัล หรือ EnOS ด้วยการบูรณาการ แผงเซลล์สุริยะแบบลอยตัว (Floating Solar) แผงเซลล์สุริยะบนหลังคา (Rooftop Solar) ระบบจัดเก็บพลังงาน (Energy Storage) และสถานีประจุพลังงานไฟฟ้า (EV Charging Station) ภายในเขตวิทยาลัย ซึ่งใช้ซอฟต์แวร์เพื่อการวิเคราะห์ระบบดิจิทัล Enlight และ Ensight ของเอ็นวิชั่น โครงการ SMART GRID สำหรับ VISTEC มีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ จะช่วยให้ ปตท. สามารถบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ปี 63 ได้อย่างสัมฤทธิ์ผลนั่นคือ อัตราการเพิ่มการปล่อยมลพิษทางอากาศเป็นศูนย์
การทำสัญญาฉบับนี้เกิดขึ้นเนื่องจากบันทึกข้อตกลง ระหว่าง เอ็นวิชั่น ดิจิทัล และ ปตท. เมื่อเดือนเม.ย.62 เพื่อสร้างความร่วมมือในหลายโครงการ โดยมีจุดประสงค์เพื่อการพิจารณาโอกาสในแหล่งพลังงานใหม่ และการแปรรูปไปสู่ระบบดิจิทัล ถือเป็นการดำเนินโครงการรูปแบบนี้เป็นครั้งแรกในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ซึ่งเป็นภาคการทำงานเฉพาะที่ให้ความสำคัญในการคิดค้นนวัตกรรมสำหรับเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (ECC) ซึ่งถือเป็นภูมิภาคที่ทวีความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับการค้าและการพาณิชย์ของภูมิภาคอาเซียน โครงการนี้ยังถือเป็นการนำร่องสู่โครงการในลักษณะเดียวกันอื่น ๆ ของ ปตท. ในประเทศไทยต่อไป
"เรารู้สึกยินดีที่ได้ประกาศการร่วมมือโครงการครั้งสำคัญกับ ปตท. ในครั้งนี้ เนื่องจากการใช้ระบบ AIoT SMART GRID จะมอบศักยภาพอันมหาศาลให้แก่ ปตท. และผู้บริหารโครงสร้างพื้นฐานรายใหญ่อื่นๆ รวมถึงชุมชนและบริษัทต่าง ๆ ในประเทศไทย ในการยกระดับประสิทธิภาพและการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน"นายอูเซียล กล่าว
นายดรุณพร กมลภุส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนานวัตกรรมและดิจิทัล ของปตท. กล่าวว่า โครงการที่ได้ร่วมดำเนินการที่ VISTEC ในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของปตท. เพื่อการแปรรูประบบดิจิทัลและการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศเท่านั้น หากยังถือเป็นพื้นที่ทดสอบสำหรับงานวิจัยและพัฒนาของกลุ่ม ปตท. และทีมนักวิจัยของ VISTEC ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Electricity Value Chain และ Smart City ซึ่งปตท.หวังว่าจะสามารถนำไปใช้ต่อยอดในภาคธุรกิจต่อไป