นางสาวพิชพิมพ์ ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บมจ. อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) กล่าวว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการออกแบบและพัฒนาเฟอร์นิเจอร์เตียงนอนรุ่น "INVISIBLE BED" ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยได้รับเลือกเป็นผู้รับรางวัลชนะเลิศระดับ Winner จากเวทีการประกวดออกแบบระดับโลก GERMAN DESIGN AWARD 2020 ซึ่งมีการรับรางวัลในวันที่ 7 ก.พ.63 ณ ประเทศเยอรมนี โดยรางวัลดังกล่าวจะมอบให้แก่ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์และการออกแบบที่โดดเด่น แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ทั่วไปในท้องตลาดหรือมีการนำเสนอนวัตกรรมที่เป็นเทรนด์ใหม่ในธุรกิจนั้นๆ
"INVISIBLE BED" ออกแบบขึ้นจาก"ความจริงตามที่เตียงควรจะเป็น"โดยนำเสนอสิ่งที่จำเป็นของเตียง คือ โครงสร้างที่แข็งแรงสามารถรองรับน้ำหนักของคนในขณะนอนได้ ในขณะเดียวกันโครงสร้างก็คือสิ่งที่ไม่จำเป็นที่ต้องมองเห็นเช่นกัน ซึ่งดีไซเนอร์ได้ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ่านการนำเสนอดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่น่าหลงใหลในแบบ Minimalistic Form จุดเด่นคือการออกแบบ Cantilever โดยมีส่วนของเตียงที่ยื่นออกเพื่อซ่อนมุมมองไม่ให้เห็นขาเตียงและหัวเตียงที่เป็นหมอนขนาดใหญ่ จึงทำให้เตียงและชั้นวางของข้างเตียงดูเสมือนลอยได้
ขณะเดียวกันดีไซเนอร์ได้ออกแบบเตียงรุ่นดังกล่าวให้สามารถแก้ไขปัญหาการใช้งานของลูกค้า (Pain Points) อาทิ การออกแบบฐานเตียงให้มีความบางและมุมหลบที่ดีเพื่อให้ผู้ใช้งานไม่ประสบปัญหาเตะหรือชนขอบเตียง, การออกแบบเตียงที่วางลอยได้ให้มีมุมมองที่สวยรอบทิศทางฯลฯ นอกจากนี้ ยังสามารถปรับตำแหน่งหัวเตียงได้รอบตัวเพื่อตอบสนองการใช้งานของแต่ละบุคคล
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายเตียงรุ่นดังกล่าวในไตรมาส 2/63 เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าคุณภาพที่ได้รับรางวัลระดับโลกในราคาที่จับต้องได้
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ ILM กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการออกแบบและพัฒนาเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งในทุกมิติ โดยมีการศึกษาดูงานออกแบบระดับนานาชาติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และพัฒนาผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในวันนี้และอนาคตข้างหน้า ตลอดจนตระหนักถึงนวัตกรรมการออกแบบเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิเช่น การใช้วัสดุ ส่วนประกอบตลอดจนฟิตติ้งต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตรูปแบบใหม่ที่ใช้วัสดุให้คุ้มค่ามากที่สุด ลดปริมาณการผลิตที่สิ้นเปลือง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการแท้จริงของผู้ใช้งาน
ปัจจุบัน บริษัท มีทีมออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์รวม 27 คน ขณะที่สภาพความเป็นอยู่และรูปแบบที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว ก็มีผลต่อ เทรนด์การพัฒนาเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า ที่เป็นการผสมผสานกันระหว่างผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นนวัตกรรมกับเทคโนโลยี อาทิ การผลิตในรูปแบบใหม่ๆ ที่มีความรวดเร็ว, การสั่งงานแบบ On Demand หรือผลิตตามปริมาณที่สั่งผ่านระบบโทรศัพท์มือถือฯลฯ