นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้น จากความคาดหวังธนาคารกลางจีนจะออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม และได้คลายความกังวลสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 หลังจีนอนุมัติยาต้านไวรัสโควิด-19 และสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อได้ดีขึ้น
ขณะที่ในประเทศวันนี้จะมีหุ้นบมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เข้าเทรดวันแรกน่าจะทำให้ตลาดคึกคักได้ และยังมีลุ้น CRC เข้าคำนวนใน SET50 แต่ SET ก็จะมีประกาศหุ้นออกจาก SET50 คาดว่าจะเป็นหุ้น บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) และหุ้นที่ออกจาก SET100 คาดว่าจะเป็นหุ้น บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV)
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามตัวเลขยอดขายรถยนต์ของไทย และติดตามศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคำร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ในวันที่ 21 ก.พ.นี้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,495-1,505 จุด ส่วนแนวต้าน 1,515-1,525 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 ก.พ.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 29,348.03 จุด เพิ่มขึ้น 115.84 จุด (+0.40%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,386.15 จุด เพิ่มขึ้น 15.86 จุด (+0.47%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,817.18 จุด เพิ่มขึ้น 84.44 จุด (+0.87%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 265.88 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 6.48 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 111.47 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 26.94 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 13.21 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.83 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.94 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 29.97 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 ก.พ.63) 1,505.54 ลดลง 8.14 จุด (-0.54%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,509.46 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ก.พ.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 ก.พ.63) ปิดที่ 53.29 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์ หรือ 2.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ก.พ.) อยู่ที่ 2.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.20/25 แนวโน้มอ่อนค่า จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหนุนดอลล์แข็ง มองกรอบวันนี้ 31.20-31.35
- บอร์ด ทอท.เคาะ มาตรการช่วยผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์ 6 สนามบิน ลดจ่ายค่าผลตอบแทน ยกเว้นเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำยาว 2 ปี ชี้สัญญาคิงเพาเวอร์ฉบับใหม่เข้าเกณฑ์ คาดกระทบรายได้การันตีปีแรก 1.5 หมื่นล้าน "30 แอร์ไลน์" เฉือนเนื้อตัวเอง เซ่นพิษโรคโควิด-19 วอน "ทอท." ลดค่าภาษี-ค่าธรรมเนียม-ค่าเช่าพื้นที่
- คลังเตรียมเสนอครม. อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ปลายเดือนนี้ มั่นใจช่วยกระตุ้น "จีดีพี" กระเตื้อง พร้อมเร่งเข็นลงทุนรัฐวิสาหกิจ หวังปลดล็อกงบประมาณปี 63 มีเม็ดเงินใหม่กว่า "แสนล้าน" ไหลเข้าระบบเพิ่ม ด้าน "แบงก์ชาติ" เร่งสถาบันการเงินเข้าช่วยเหลือลูกหนี้ ขณะ บล.ภัทรหั่น "จีดีพี" ปีนี้โตแค่ 1.4%
- หอค้าไทยตบเท้าพบ'สุริยะ'เสนอ 8 เรื่องดันเศรษฐกิจ หนุนขับเคลื่อนโครงการปั้นนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ร่วมกับโครงการ 1 ไร่ 1 ล้าน สร้างต้นแบบผู้ประกอบการทั้งส่วนกลางและภูมิภาค พร้อมต่อยอดเชิงพาณิชย์สู่ตลาดสากล แนะทบทวนยกเลิกโควต้าน้ำตาล
- "ธอส." เตรียมหารือคลังชงเพิ่มเพดานกู้บ้านล้านหลัง เป็นไม่เกิน 1.2 ล้านบาทต่อราย หวังช่วยคนไทยมีบ้านคล่องขึ้น แจงย่านพระราม 9-บางซ่อน เตรียมเปิดขายอีกหมื่นยูนิต ประเมินภายในปี 2564 ปล่อยกู้ครบ 5 หมื่นล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- CRC (บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สังกัดกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดพาณิชย์ โดยราคาขาย IPO ที่ 42 บาท/หุ้น ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อย มีผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3/62 มีกำไรสุทธิ 1.39 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.29 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.46 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.56 บาท
บริษัทฯ ประกอบธุรกิจโดยการลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีก โดยแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้านภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ และ (3) กลุ่มอาหาร ซึ่งจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าที่จำหน่ายทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ
- SC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2.7-3.0 บาท กำไรสุทธิ Q4/62 ดีกว่าคาด โดยอยู่ที่ 988 ลบ. +124% Q-Q, +44% Y-Y จากค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่ต่ำกว่าคาด ถ้าตัดรายการพิเศษออก กำไรปกติ +99% Q-Q, +28% Y-Y สูงสุดในรอบ 14 ไตรมาส และปีนี้เน้นระบายสต็อกคอนโดเพื่อรักษาสภาพคล่อง อาจกดดันมาร์จิ้น จึงอาจปรับกำไรปีนี้ลง 7-11% เป็นลดลง 10-15% Y-Y จะแถลงแผนธุรกิจ 25 ก.พ.นี้ ด้าน PE ต่ำเพียง 6 เท่า และ Dividend yield สูงถึง 8% ช่วยจำกัด downside โดยประกาศจ่ายปันผล 0.19 บ/หุ้น XD 30 เม.ย. จ่ายเงิน 21 พ.ค. 2563
- TOP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 68 บาท ผลกำไรสุทธิ Q4/62 แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่ม ขณะที่ระยะสั้นยังได้ Sentiment บวกจากค่าการกลั่นที่กลับมาเป็นบวกจากที่ติดลบในช่วงต้นปี รวมถึงราคาน้ำมันที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทใน Q1/63
- BTS (เคจีไอ) "ซื้อ"เป้า 15.2 บาท ปรับเพิ่มขึ้นประมาณการฯปี 2563-2564 ขึ้นอีก +11.7% และ +11.0% ตามลำดับ โดยปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นขึ้น และมี Upside จากโอกาสที่รัฐบาลจะต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว