หุ้น CBG ร่วงลง 4.86% มาที่ 83.25 บาท หรือลดลง 4.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 591.57 ล้านบาท เมื่อเวลา 12.03 น. ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 87 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 87 บาท และต่ำสุดที่ 82.50 บาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) รายงานกำไรปกติไตรมาส 4/62 ตามคาดอยู่ที่ 738 ล้านบาท +1.2% QoQ และ +49.0% YoY และเป็นระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน แต่แนวโน้มกำไรในไตรมาส 1/63 อาจย่อตัวลงมาเหลือราว 500-600 ล้านบาท เติบโตราว 20% YoY เพราะฐานต่ำ แต่ QoQ อาจลดลงมากเพราะยอดขายในจีนและในประเทศอาจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และความล่าช้าของแผนงบประมาณปี 63 ของรัฐบาล
ตลอดจนการแข่งขันที่สูงขึ้นจากคู่แข่งอย่าง บมจ.โอสถสภา (OSP) ที่รุกทั้งตลาดในประเทศ และ CLMV โดยเฉพาะในเมียนมาและเวียดนาม ขณะที่ CBG จะมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงขึ้นเพื่อให้ได้ยอดขายเติบโตถึง 20% ตามเป้า ซึ่งมองว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อย
ทั้งนี้ คงประมาณการกำไรปี 63 ของ CBG ที่ระดับ 2,937 ล้านบาท +22.2% YoY แต่เริ่มเห็น Downside ที่อาจถูกปรับประมาณการลง เนื่องจากคาดรายได้ที่คาดเติบโต 9% YoY เป็น 16,277 ล้านบาท เป็นการเติบโตจากต่างประเทศถึง 18.9% โดยเป็นตลาดจีนเติบโต 200% YoY ขณะที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อาจทำให้ต้องปรับประมาณการรายได้ส่วนนี้ลง
ด้านอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ลดลงจากเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ อาจทำให้ความหวังในการเห็นการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เป็นไปได้น้อยลง โดยคาด GPM ปี 63 ที่ 42.3% ขณะที่ทั้งปี 62 อยู่ที่ 38.9% ขณะที่เป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่สูงของ CBG อาจต้องแลกกับ SG&A ที่สูงขึ้นและอาจสูงกว่าคาดได้
แม้ยังคงคำแนะนำ TRADING แต่เชื่อว่าสถานการณ์ปัจจุบันมีโอกาสที่ Consensus อาจปรับประมาณการลงได้ จึงแนะนำชะลอการลงทุน หรือ ขายทำกำไรออกไปก่อน