ยอดขายไตรมาส 4 ปี 2562 จำนวน 140,794 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2% แต่หากไม่นับรวมผลกระทบจากการแปลงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและการปรับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ จะเพิ่มขึ้น 9% โดยมีรายได้จากกิจการต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 67% และรายได้จากกิจการประเทศไทย 33% ของรายได้จากการขายรวม
ในปี 2562 ที่ผ่านมานั้น ธุรกิจมีความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจ ค่าเงินที่มีความผันผวน โรคระบาด ASF ในสุกรที่ทำให้ปริมาณสุกรในโลกลดลง อย่างไรก็ดี บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิของปี 2562 อยู่ที่ 18,456 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากการปรับตัวดีขึ้นของกิจการในหลายประเทศ โดยเฉพาะผลการดำเนินงานของเวียดนามในไตรมาส 4/62 ที่ผ่านมา
สำหรับปี 2563 บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากภาวะปริมาณสุกรขาดตลาดโดยเฉพาะในประเทศจีนและเวียดนาม ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสุกรในหลายพื้นที่อยู่ในระดับสูงกว่าปี 2562 สำหรับการเติบโตในอนาคต บริษัทมีกลยุทธ์มุ่งเน้นการเติบโตและขยายตลาดในต่างประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโต และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้จากการขายในต่างประเทศและส่งออกเป็น 80% ของรายได้จากการขายรวมในอีก 5 ปีข้างหน้า
โดยบริษัทมี 3 แนวทางกลยุทธ์ในการดำเนินงานได้แก่ การเพิ่มมูลค่าตลอดห่วงโซ่คุณค่าโดยใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อน การปรับเปลี่ยนให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงโดยเทคโนโลยีดิจิตัล และ การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนผ่านการสร้างคุณค่าร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน