ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,495.09 จุด เพิ่มขึ้น 3.85 จุด (+0.26%) มูลค่าการซื้อขาย 56,082.23 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,495.17 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,476.89 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 768 หลักทรัพย์ ลดลง 831 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 535 หลักทรัพย์
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ก่อนจะพลิกกลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกช่วงท้ายตลาด หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีเงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่ และลงมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ทำให้ตลาดคาดว่าหลังจากนี้เสถียรภาพของรัฐบาลน่าจะดีขึ้น ประกอบกับดัชนีปรับตัวลงหลายวันก่อนหน้านี้ ในทางเทคนิคก็มีสัญญาณรีบาวด์ขึ้นมา
อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดยังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ค่อนข้างแย่ หลังจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 4/62 เติบโตเล็กน้อย ขณะที่ในไตรมาส 1/63 เศรษฐกิจยังเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เข้ามาเพิ่มเติมก็น่าจะกดดันให้ GDP มีโอกาสที่จะพลิกมาหดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนด้วย ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ออกมายังอยู่ในโซนทรงตัวถึงค่อนไปทางลบ
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายในสัปดาห์หน้ามีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ต่อ หลังจากดัชนีปรับตัวลงมามากก่อนหน้านี้ ทำให้สัญญาณทางเทคนิครีบาวด์ได้บ้าง แต่การรีบาวด์น่าจะอยู่ในกรอบจำกัด ให้แนวต้านที่ 1,500 และ 1,510 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,480 และ 1,475 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BAM มูลค่าการซื้อขาย 3,340.04 ล้านบาท ปิดที่ 29.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,260.22 ล้านบาท ปิดที่ 65.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,995.09 ล้านบาท ปิดที่ 97.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,991.65 ล้านบาท ปิดที่ 44.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,889.04 ล้านบาท ปิดที่ 29.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท