นายทิโมธี อลัน พอตเตอร์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการปี 63 จะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 62 เนื่องจากบริษัทไม่มีค่าใช้จ่ายในการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ครั้งใหญ่เหมือนปีที่ผ่านมา และยังได้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 175,000 บาร์เรล/วัน จากเดิม 165,000 บาร์เรล/วัน และจะไม่มีผลกระทบจากค่าใช้จ่ายหลังถูกโจมตีทางธุรกรรมทางอีเมล์ในช่วงปลายปี ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหาย 22.4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเชื่อว่าในอนาคตจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ซึ่งบริษัทจะใช้งบลงทุนที่ไม่มากนักเพื่อพัฒนาและยกระดับการป้องกันที่ดีมากขึ้น
สำหรับสถานการณ์ดังกล่าวเป็นผลกระทบค่อนข้างมากต่อราคาหุ้น แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีผู้ถือหุ้นจากสถาบันในประเทศ และ ต่างประเทศติดต่อเข้ามาเพื่อที่จะขายหุ้นออกอย่างใด โดยจะปิดสมุดทะเบียนเพื่อตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นอีกครั้งวันที่ 6 มี.ค.นี้ ซึ่งการประชุมผู้ถือหุ้นจะมีขึ้นในวันที่ 9 เม.ย.นี้ โดยในเดือน ส.ค.62 สถาบันในประเทศและต่างประเทศ ถือหุ้นรวมกัน 80-85% และรายย่อยถือหุ้น 15-20%
"แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก แต่เราก็ไม่ได้มีแผนซื้อหุ้นคืน โดยหลังจากที่มีการตรวจสอบแล้วเสร็จบริษัทจะมีแผนการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อที่จะเพิ่มระบบการรักษาความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น และมั่นใจว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นซ้ำอย่างแน่นอน"นายทิโมธี กล่าว
ในส่วนของทิศทางค่าการกลั่นในช่วงต้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 0-1 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล แต่เริ่มปรับตัวดีขึ้นมาบ้างแล้วที่ 2-3 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ต่ำกว่าปีก่อนที่ 3.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล แต่อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เนื่องจากมีสถานการณ์ความไม่แน่นอนหลายๆปัจจัยที่เข้ามากระทบ
ขณะทื่แผนการลงทุนในธุรกิจอื่นๆในอนาคตนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษาถึงธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจน้ำมัน เช่น ธุรกิจค้าปลีก ซึ่งขณะนี้บริษัทยังไม่ได้ดำเนินการไปถึงขั้นตอนการสรุปแผนแต่อย่างได