นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บมจ.พริมา มารีน (PRM) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโต 10-15% จากแผนการเพิ่มเรืออีกอย่างน้อย 2 ลำ ได้แก่ เรือขนส่งภายในประเทศ 1 ลำ เพื่อให้บริการเพิ่มเติมแก่ลูกค้า และเรือ FSU อีก 1 ลำ เพื่อรองรับความต้องการกักเก็บน้ำมัน รวมถึงยังจะรับรู้รายได้เต็มปีจากทุกกลุ่มธุรกิจ ทำให้ PRM สามารถเก็บเกี่ยวรายได้อย่างเต็มที่
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทฯ ทำรายได้รวม 5,404.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,572.2 ล้านบาท มีปัจจัยการเติบโตมาจากแผนกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างความแข็งแกร่งของกองเรือ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการ โดยเพิ่มเรือขนส่งภายในประเทศจำนวน 6 ลำ และกลุ่มเรือ FSU 3 ลำ ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2562 บริษัทฯ มีกองเรือรวมทั้งสิ้น 43 ลำ
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งภายในประเทศและกลุ่มเรือ FSU มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากความต้องการใช้บริการเรือขนส่งปิโตรเลียมและกักเก็บน้ำมันเตากำมะถันต่ำ ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพื่อรองรับข้อกำหนด IMO 2020 นอกจากนี้การเพิ่มสัดส่วนการเข้าถือหุ้นใน Big Sea ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรือขนส่งปิโตรเลียมอันดับ 2 ของประเทศเป็น 80% ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้และกำไรจากการดำเนินงานที่ดี จึงช่วยสนับสนุนให้ PRM ก้าวขึ้นเป็นเป็นผู้นำในการให้บริการเรือขนส่งปิโตรเลียมอันดับ 1 ของประเทศ