บลจ.บัวหลวง คาด AUM ปี 63 โต 5% จากปีก่อนที่ 9.10 แสนลบ. ออกกองทุนใหม่ 8-9 กอง ชูธีมลงทุนเน้นเครือข่ายออนไลน์

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 25, 2020 15:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวง คาดในปี 63 สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) จะเติบโต 5%เป็น 9.55 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่มี AUM 9.10 แสนล้านบาท ที่มีมูลค่ากองทุนรวม (Mutual Fund) 5.72 แสนล้านบาท กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 2.24 แสนล้านบาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 9.40 หมื่นล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคล 1.90 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ในปี 63 ธุกิจกองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคล จะเติบโตขึ้น โดยคาด AUM ของธุรกิจกองทุนรวม ในปีนี้น่าจะเติบโต 5% เช่นกัน

นายวศิน กล่าวว่า ในปีนี้คาดออกกองทุนใหม่ 8-9 กองทุน ได้แก่ กองทุนตราสารหนี้ 1 กองทุน, กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) 1 กอง, กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) 1 กองทุน, กองทุนที่ลงทุนสินทรัพย์หลากหลาย (Multi Asset Portfolio Solution) 3 กองทุน และ กองทุนลงทุนกองทุนต่างประเทศ (FIF) 2 กองทุน

นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง กล่าวว่า กองทุนที่ลงทุนสินทรัพย์หลากหลาย (Multi Asset Portfolio Solution) จะมีออก 3 กองได้แก่ กองทุนเสี่ยงต่ำที่ลงทุนหุ้น ไม่เกิน 25% ทั้งในประเทศแลต่างประเทศ กองทุนเสี่ยงปานกลาง ลงทุนหุ้นไม่เกิน 50%และกองทุนความเสี่ยงสูง ลงทุนหุ้นประมาณ 80% ที่เหลือ ลงทุนตราสารหนี้ กอง REIT

นายพีระพงศ์ มองกรอบตลาดหุ้นไทยในปีนี้ 1,425-1,520 จุด บน P/E ที่ 15-16 เท่า และ EPS ที่ 95 บาท/หุ้น จากปัจจัยลบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังไม่รู้ว่าสถานการณ์จะนิ่งเมื่อใด โดยคาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP)ไตรมาสแรกปีนี้ติดลบ และคาดว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค จากที่ขณะนี้ในประเทศกระทบจากนักท่องเที่ยวลดลง งบประมาณปี 63 ล่าช้า และรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล แต่คาดว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง

ทั้งนี้ แนะนำลงทุนหุ้นปันผล หุ้นในต่างประเทศ เช่น หุ้นเกี่ยวกับเฮลธ์ แคร์ , Innotech กองทุนหุ้นจีนซึ่งมองดูภาพระยะยาวยังมั่นใจเศรษฐกิจจีน

นายพีระพงศ์ กล่าวว่าในปีนี้ บลจ.บัวหลวง มีธีมการลงทุน คือ "เครือข่ายครอบคลุมสร้างความแข็งแกร่ง บรรษัทแข็งแรงสร้างความยั่งยืน"เพื่อใช้ในการสื่อสารกับผู้ลงทุนเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกกิจการเพื่อลงทุนในระยะยาว

พร้อมอธิบายว่า เครือข่ายครอบคลุมสร้างความแข็งแกร่ง คือ กิจการที่มีช่องทางที่เข้าถึงลูกค้าเพื่อตอบสนองต่อความต้องการลูกค้า และมีสินค้าและบริการครบในการเลือกซื้อ ผ่านแพลตฟอร์ม หรือช็อปปิ้งออนไลน์ บางธุรกิจนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะสามารถกระตุ้นการซื้อได้เร็วและตรงเป้าหมาย ทั้งนี้ เป็นยุคที่ผู้บริโภคเชื่อมโยงการใช้ชีวิตกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา พร้อมแนะนำลงทุนกลุ่ม Commerce กลุ่มแบงก์

ส่วนบรรษัทแข็งแรงสร้างความยั่งยืน ที่เป็นปัจจัยด้าน ESG ที่ควรพิจารณาการลงทุน เพื่อผลตอบแทนระยะยาว ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) นอกเหนือจากขนาดธุรกิจ และผลกระทบเครือข่าย (Network effects)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ