นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายปี 63 เติบโต 15% จากปีก่อน เป็นผลจากการเลื่อนส่งมอบงานจากปีก่อนมาเป็นปีนี้ เช่น งานสนามบินสุวรรณภูมิอาคารเทียบเครื่องบินรอง และ งานโครงการรัฐสภา เป็นต้น และยังมีงานโครงการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ LED ของรัฐ ที่คาดว่าจะเริ่มโครงการได้ในปีนี้ รวมทั้งงานของภาคเอกชนที่ยังคงมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) กว่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ทั้งหมดในไตรมาส 1/63 ถึงไตรมาส 2/63 ขณะเดียวกันยังมีแผนเข้าประมูลงานทั้งงานภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่องด้วย เพื่อรักษาระดับงานในมือให้อยู่ประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรจากจีน ในการผลิตสินค้าเพื่อขายให้กับลูกค้าในประเทศสหรัฐฯ จากที่ผ่านมาได้มีการเจรจากับลูกค้าสหรัฐฯ แล้วจำนวน 2 ราย ซึ่งมีความสนใจให้บริษัทฯ ผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่าง และอุปกรณ์อัจฉริยะที่เกี่ยวข้องกับ IoT ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตและจำหน่ายได้ในช่วงเดือนพ.ค.นี้เป็นต้นไป และจะมีการรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงต้นไตรมาส 3/63 สนับสนุนให้บริษัทฯ มีรายได้จากส่วนนี้เพิ่มขึ้นราว 100-150 ล้านบาทต่อเดือน อย่างไรก็ตามการผลิตสินค้าดังกล่าวบริษัทฯ ได้มีการวางงบลงทุน 40 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงอาคารให้มีประสิทธิภาพในการผลิตตามมาตรฐานที่ลูกค้ากำหนด ขณะที่เครื่องจักรที่จะผลิตสินค้าคาดรองรับได้ราว 200 กว่าล้านบาท
นอกจากนี้ในปีนี้บริษัทฯ ยังได้เพิ่มโมเดลธุรกิจใหม่ขึ้นมา เพื่อเน้นด้าน Supply ของธุรกิจ โดยใช้โมเดล "Efficient Value Chain Management" เพื่อการลดต้นทุนและควบคุมคุณภาพสินค้าตลอดห่วงโซ่การผลิต
สำหรับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ปัจจุบันบริษัทฯ ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว โดยยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องด้วยอาจจะทำให์โครงการต่างๆ ขยายตัวลดลง