นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) เปิดเผยว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าลงทุนควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) และร่วมทุน (JV) ในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ทั้งการขนส่งทางรถยนต์และระบบราง เป็นต้น ซึ่งเป็นบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ 2-3 ราย คาดว่าจะปิดดีลได้อย่างน้อย 1 รายภายในปีนี้
บริษัทวางงบลงทุนเบื้องต้น 500 ล้านบาทในปีนี้ โดยส่วนใหญ่ราว 300 ล้านบาทจะใช้ลงทุนในบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (SAL) ผู้ให้บริการภาคพื้นอากาศยาน และผู้โดยสาร และบริษัท แกแล็คซี่ เวนเจอร์ส จำกัด (GV) ส่วนที่เหลือใช้รองรับการขยายกิจการร่วมกับพันธมิตรทั้งรายเดิมและรายใหม่
สำหรับทิศทางผลประกอบการในปีนี้ บริษัทคาดว่ารายได้จะทรงตัวจากปี 62 ที่มีรายได้ 2,712.5 ล้านบาท โดยบริษัทจะมีการทบทวนแผนการดำเนินงานหลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1/63 เนื่องจากยอมรับว่าได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากธุรกิจสายการบินลดเที่ยวบินลงเกือบ 50% ทำให้ปริมาณการขนส่งหายไปด้วย
บริษัทอยู่ระหว่างการติดตามทิศทางการแพร่ระบาดอีกครั้งว่าจะยืดยาวไปอย่างไร แต่เบื้องต้นประเมินว่าจะคลี่คลายได้ภายในเดือน เม.ย. 63 ซึ่งจะส่งผลให้สายการบินต่าง ๆ กลับมามีเที่ยวบินเป็นปกติ และโรงงานจะกลับมาผลิตสินค้าเหมือนเดิม โดยหากเป็นไปตามที่คาดการณ์ก็จะส่งผลให้การขนส่งสินค้ากลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เพราะยังมีสินค้าค้างส่งของหลายผู้ประกอบการอยู่จำนวนมาก
ขณะที่บริษัทยังคงเป้าหมายตามแผนธุรกิจระยะ 3 ปี (ปี 62-64) ที่จะ"เป็นกลุ่มบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำของไทยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการเติบโตอย่าง ต่อเนื่องและยั่งยืน" ซึ่งขับเคลื่อนจากธุรกิจหลัก 4 ธุรกิจ
"จริงๆเรายังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 15% ซึ่งอย่างน้อยคือการรักษาระดับผลประกอบการให้ใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และสงครามทางการค้าระหว่างประเทศสหรัฐ และประเทศจีน ที่เข้ามากระทบให้ผลประกอบการชะลอตัว ซึ่งเราจะมาทบทวนแผนอีกครั้งหลังจากผลประกอบการไตรมาส 1/63 ออกมาแล้ว"นายทิพย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทิศทางกำไรสุทธิในปีนี้ยังมีโอกาสจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไร 50% จากทั้ง 2 บริษัท ได้แก่ Around Logistics management ประเทศฮ่องกง และ DGP Singapore ซึ่ง DGP Singapore ถือเป็นเจ้าเดียวในตลาดที่ได้รับผลบวกจากไวรัสโควิด-19 ในตอนนี้ เพราะเป็นผู้ขนส่งสินค้าอันตราย ซึ่งขณะนี้มีงานเข้ามาจำนวนมาก จึงคาดว่าผลประกอบการจะดีกว่าเป้าหมาย
นอกจากนี้ ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของการเข้าร่วมลงทุนใน SAL หลังจากคณะกรรมการบริษัทมีมติเข้าซื้อหุ้นเพิ่มอีก 42.34% คิดเป็นเงินลงทุนรวม 188 ล้านบาท จากเดิมที่ถือหุ้นอยู่ 15.86% โดยจะเสนอให้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติในวันที่ 20 เม.ย.นี้ ปัจจุบันได้เจรจากับผู้ถือหุ้นเดิมแล้ว ได้ราคาซื้อขายถูกกว่าการซื้อหุ้นเดิม เบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือน พ.ค.63