นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนเป้าหมายรายได้รวมในปี 63 จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตราว 10-12% โดยคาดจะสามารถสรุปได้หลังจากผ่านไตรมาส 2/63 ไปแล้ว เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีผลต่อลูกค้าของบริษัท ซึ่งขณะนี้บริษัทยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม การดำเนินธุรกิจของบริษัทในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.63 ยังไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศราว 15-16% ซึ่งในกลุ่มดังกล่าวเป็นลูกค้าในประเทศจีนเพียง 1-2% เท่านั้น
สำหรับความคืบหน้าของโรงงานผลิตเกล็ดขนมปังในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.นี้ ส่วนโรงงานผลิตเกล็ดขนมปังในประเทศเวียดนาม จะเริ่มทดสอบเดินเครื่องผลิตในช่วงต้นเดือน มี.ค.63 คาดจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ โรงงานในประเทศอินโดนีเซีย รองรับกำลังการผลิตเต็มที่ 5 ตัน/วัน เบื้องต้นในช่วง 1-2 เดือนแรกคาดว่าจะใช้กำลังการผลิตที่ประมาณ 2-2.5 ตัน/วัน และในปีแรกจะใช้กำลังการผลิตกว่า 3 ตัน/วัน หรือคิดเป็นประมาณ 65% ของกำลังผลิตทั้งหมด ส่วนโรงงานในประเทศเวียดนาม รองรับกำลังการผลิตเต็มที่ 14 ตัน/วัน เบื้องต้นในช่วงเฟสแรกจะใช้กำลังการผลิตประมาณ 65%
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนลงทุนขยายกำลังการผลิตโรงงานในประเทศอินโดนีเซีย เฟส 2 เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 200-250 ล้านบาท ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จภายได้ในปี 65 หรืออย่างเร็วที่สุดก็อาจจะเปิดดำเนินการได้ก่อนกำหนด
นายสุรนาถ กล่าวว่า ส่วนแผนการตลาดในปีนี้ บริษัทจะเน้นการเจาะตลาดร้านขนาดเล็กที่มีสาขาประมาณ 5-10 สาขาให้มากขึ้น ด้วยทีมขายใหม่ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่าย เหมาะกับสูตรของร้านใดก็ได้ รวมทั้งการเริ่มพัฒนาเครื่องดื่มและของกินหลากหลายให้กับเจ้าของ Vending Machine รวมถึงทำ Quick Service Restaurant (QSR) กับ Delivery service อีกทั้งลงไปเจาะกลุ่มตลาดนัด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารทอด เนื่องจากมีวอลุ่มค่อนข้างมาก
พร้อมกันนั้น บริษัทยังมีการพัฒนากลิ่น รส ใหม่ เช่น กลุ่มรสน้ำตาลและรสเกลือ, Partical drink และกลุ่มไวน์ เบียร์ วิสกี้ ที่ให้รสชาติเหมือนแอลกอฮอล์แต่ไม่มีแอลกอฮอล์ด้วย