นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 63 ยังมีอัตราเติบโตต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตราว 20-30% แม้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากการชลอตัวของภาคท่องเที่ยวเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทได้รับผลกระทบน้อยมาก เพราะมีฐานลูกค้ากระจายไปทั่วประเทศ และกลุ่มลูกค้ายังมีความจำเป็นในการใช้สินเชื่อสูง ขณะเดียวกันบริษัทก็มีการติดตามดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ตั้งเป้ารักษาระดับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ระหว่าง 3-5%
สำหรับผลการดำเนินงานปี 62 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 3,928.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 927.86 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 30.92% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 61 ที่มีกำไรสุทธิ 3,000.89 ล้านบาท
ขณะที่รายได้รวมของบริษัทและบริษัทย่อยยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้ดอกเบี้ย 7,239.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,442.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24.89% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 61 ที่มีรายได้ดอกเบี้ย 5,796.51 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้อื่น 2,551.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 468.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.51% เมื่อเทียบกับงวดเปี 61 ที่มีรายได้อื่น 2,082.44 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้ที่เพิ่มขึ้น 23.38% จากสิ้นปี 61 ที่มีพอร์ตลูกหนี้ 29,573.18 ล้านบาท มาเป็น 36,488.04 ล้านบาท ณ สิ้นสุดปี 62
"การเติบโตของพอร์ตสินเชื่อมาจากการขยายสาขาต่อเนื่อง ตามนโยบายของกลุ่มศรีสวัสดิ์จากสิ้นปี 61 มีจำนวน 2,870 สาขา เพิ่มเป็น 4,080 สาขา ในสิ้นปี 62 และปีนี้คาดว่าจะมีการขยายสาขาครอบคลุมทั่วทั้งประเทศจำนวนอีกประมาณ 200-300 สาขา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องการใช้สินเชื่อ"นางสาวธิดา กล่าว