นางสาวจิตยาภา วงศาโรจน์ ผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า บริษัทคาดไตรมาส 1/63 จะมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบปัจจุบันปรับตัวลงมาเฉลี่ย 58-59 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/62 เฉลี่ยอยู่ที่ 64 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 59 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์คลี่คลายได้เชื่อว่าราคาน้ำมันดิบดูไบน่าจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 61 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ส่วนธุรกิจปิโตรเคมี ในส่วนของราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้นในช่วงเดือน ม.ค.63 แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกดดันต่อความต้องการใช้ลดลง แต่บริษัทเชื่อว่าความต้องการใช้จะกลับมาดีขึ้นในครึ่งหลังปีนี้ และน่าจะส่งผลต่อมาร์จิ้นปรับตัวดีขึ้นด้วย
ขณะที่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/63 จะยังทรงตัว หรือลดลงเล็กน้อย 1-2% เนื่องจากจะมีการปิดซ่อมบำรุงโรงแยกก๊าซธรรมชาติโรงที่ 5 ส่งผลให้ปริมาณการขายลดลง
ทั้งนี้ บริษัทยังมีนโยบายที่จะขาย หรือหาพันธมิตรในธุรกิจถ่านหินที่ประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่ความต้องการใช้ถ่านหินของจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่ชะลอตัว โดยธุรกิจถ่านหินมีสัดส่วน 1% ของผลกำไรสุทธิรวมของบริษัท