(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามตลาดตปท. นลท.ยังวิตกการแพร่ระบาดไวรัส"โควิด-19"กดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 27, 2020 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลงอยู่ เช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ปรับตัวลงกันเกือบทุกตลาด เหมือนดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ปรับตัวลงไป 200 จุด หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ แถลงเช้านี้ยืนยันสหรัฐพร้อมรับมือไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด และการผลิตวัคซีนคืบหน้าด้วยดีตาม Process ซึ่งทำให้ดูแล้วไม่ได้มีอะไรใหม่ สร้างความผิดหวังให้นักลงทุนที่คาดหวังว่าจะมีสัญญาณบวกออกมา

ทั้งนี้ ตลาดฯยังมีความวิตกกังวลไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดนอกประเทศจีนเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอิตาลี, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น เป็นต้น แม้แต่ในไทยก็วิตกกรณีการปกปิดข้อมูลจากผู้ป่วยติดเชื้อ ทำให้กังวลเชื้ออาจแพร่กระจายในวงกว้างมากขึ้น อาจส่งผลให้ไทยเข้าสู่ระดับ 3 เร็วขึ้น

นักลงทุนจึงได้ย้ายการลงทุนจากหุ้นที่ได้รับผลกระทบไปสู่หุ้นที่ปลอดภัย และถือเงินสดไว้ก่อน ดังนั้น เวลานี้จึงเป็นเรื่องวิกฤตความเชื่อมั่น โดยจะต้องมีการสร้างความเชื่อมั่น เช่นมียา, มีคนออกมาสร้างความเชื่อมั่น รวมถึงการมี Activity ต่าง ๆ ที่จะสร้างความเชี่อมั่นได้ แต่มองว่าหุ้นราคาถูกน่าสนใจลงทุนได้สำหรับ Value Investor พร้อมให้แนวรับ 1,350-1,334 จุด ส่วนแนวต้าน 1,378 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (26 ก.พ.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,957.59 จุด ลดลง 123.77 จุด (-0.46%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,116.39 จุด ลดลง 11.82 จุด (-0.38%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,980.77 จุด เพิ่มขึ้น 15.16 จุด ( +0.17%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 170.36 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.56 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 167.32 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 3.34 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.90 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 7.29 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.54 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 19.82 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 ก.พ.63) 1,366.41 จุด ลดลง 72.69 จุด (-5.05%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 773.70 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ก.พ.63
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (26 ก.พ.63) ปิดที่ 48.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.17 ดอลลาร์ หรือ 2.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 ก.พ.) อยู่ที่ 2.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.83 แข็งค่าจากเย็นวานนี้ หลังดอลล์อ่อน ยังกังวลไวรัสโควิด-19, เงินไหลออก
  • กพท.ถก 20 สายการบินอุ้มธุรกิจ เตรียมชง กบร.สัปดาห์หน้า เคาะ 5 มาตรการ ลดค่าจอดอากาศยาน ค่าธรรมเนียมผู้โดยสารขาออก 50% หลังโควิด-19 ฉุดธุรกิจ ยกเลิกไฟลท์เดือน มี.ค.พุ่ง 9,797 เที่ยวบิน คาดทั้งปีผู้โดยสารหาย 5 ล้านคน
  • ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือน ม.ค.63 ลดลง 4.59% อยู่ที่ระดับ 103.32 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ระดับ 108.30 จากผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไม่รวมทองคำ หดตัว 0.85% ส่วนแนวโน้มเดือน ก.พ.63 สศอ.ประเมินว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนมกราคม เนื่องจากบรรยากาศสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐดีขึ้น หลังจากมีบรรลุข้อตกลงเจรจาการค้ารอบแรกที่ผ่านมา ประกอบกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของไทยมีมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังค่อนข้างได้ผลดีอยู่ในระดับ 2 ยังไม่เข้าสู่ความรุนแรงระดับ 3 เพราะสามารถควบคุมการแพร่เชื้อไว้ได้ในวงจำกัด
  • การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยได้จัดทำรายงานผลการศึกษา เบื้องต้นการเตรียมพื้นที่รองรับการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายและการลงทุนปิโตรเคมีขั้นสูงของบริษัทเอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น รวมพื้นที่ประมาณ 10,500 ไร่ รวม 4 พื้นที่ แบ่งเป็นบนบก 2 พื้นที่และพื้นที่ถมทะเล 2 พื้นที่ ต่อ กนอ.แล้ว อยู่ระหว่างตรวจแก้ไขเพื่อนำเสนอต่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเห็นชอบเร็วๆ นี้ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป โดย กนอ.จะรายงานไปยัง นายสุริยะ ว่าพื้นที่ใดเหมาะสมที่สุด

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BTS-W5 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 1,315,385,979 หน่วย อายุ 1 ปี ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 14 บาท กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 31 มี.ค.63 และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 16 ก.พ.64
  • CK (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 25.5 บาท ได้ Sentiment บวกจากร่าง พ.ร.บ.งบปี 63 ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว คาดภาครับเร่งเบิกจ่ายทันที ส่งผลดีโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มรับเหมา เลือก CK เป็น Top pick ผลประกอบการผันผวนน้อยสุดของกลุ่ม เพราะมีเงินลงทุนในบริษัทลูกซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ รถไฟฟ้า ทางด่วน (BEM), น้ำประปา (TTW) และโรงไฟฟ้า (CKP) จึงมีความมั่นคงของผลประกอบการมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่นที่เน้นธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเพียงอย่างเดียว
  • CHG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อลงทุน"เป้า 3 บาท หุ้นถูกขายเพราะบรรยากาศ Risk off แต่ธุรกิจยังเป็นปกติ กำไร Q4/62 น่าจะโตสูง +37% Y-Y จากการขาดทุนลดลงของรพ.ใหม่ และคาดกำไรทั้งปี +17% Y-Y เป็น 740 ลบ. ส่วน COVID-19 กระทบจำกัดเพราะมีลูกค้าต่างชาติน้อย ปี 2563 ยังเป็นปีที่ดีเพราะสปส. ปรับขึ้นค่าหัว และรพ. RPC และ 304 น่าจะคุ้มทุนในปีนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ