![TQM คาดยอดขายปีนี้ 1.5 หมื่นลบ.ก่อนแตะ 5 หมื่นลบ.ในปี 69 พร้อมเจรจาซื้อกิจการ,เร่งพัฒนาประกันไวรัสโควิด](/img/files/20200227/iq0fea47e731c99a08c3f233f16e091ccb.jpg)
นางนภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายระยาว 6 ปี (64-69) จะเติบโตขึ้นแตะระดับ 50,000 ล้านบาท จากปีนี้บริษัทคาดว่าจะมียอดขาย 15,000 ล้านบาท หรือเติบโตราว 17.2% จากปีก่อน 12,795 ล้านบาท โดยบริษัทจะเน้นการเป็นผู้นำเทรนด์ดิจิทัลอินชัวร์รันส์โบรกเกอร์ในภูมิภาค ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการที่เป็นการมอบประสบการณ์ที่ใหม่ สร้างความแตกต่างให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัล
ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงรักษาตลาดเดิมไว้ทั้งในส่วนงาน Tele sale งานขาย Face to Face งานขายต่างจังหวัด และลูกค้าองค์กร รวมทั้งกลุ่มบริษัทในเครือ เช่น บริษัท ที เจ เอ็น อินชัวร์รันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ที่มุ่งเน้นขยายตลาดดีลเลอร์ และนายหน้าอิสระที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญ และ เทคโนโลยีช่วยสนับสนุนในงานขาย และ บริการของลูกค้า
![TQM คาดยอดขายปีนี้ 1.5 หมื่นลบ.ก่อนแตะ 5 หมื่นลบ.ในปี 69 พร้อมเจรจาซื้อกิจการ,เร่งพัฒนาประกันไวรัสโควิด](/img/files/20200227/iq0fea47e731c99a08c3f233f16e091ccb~.jpg)
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการเจรจาเพื่อเข้าซื้อธุรกิจโบรกเกอร์ประกัน โดยอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าซื้อหุ้นทั้งหมด หรืออาจจะเป็นการเข้าถือหุ้นบางส่วนเพื่อช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ ที่มีผลิตภัณฑ์แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทในปัจจุบัน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 ดีล โดยจะเน้นการเข้าซื้อกิจการที่มีกำไรในทันที โดยบริษัทจะใช้กระแสเงินสดที่มีอยู่ในปัจจุบันประมาณ 2,000 ล้านบาทเพื่อรองรับการลงทุน
พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีแผนจะขยายตลาดไปสู่ประเทศที่มีกำลังซื้อ และมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยได้เริ่มมีการเข้าไปศึกษาตลาด และความเป็นไปได้ในประเทศกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งรูปแบบการลงทุนจะเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตร โดยบริษัทจะเป็นโบรกเกอร์รายแรกที่เข้าไปทำธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV
ส่วนภาวะโรคระบาดที่เกิดขึ้นปัจจุบันบริษัทได้เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยไวรัสโควิด-19 ร่วมกับพันธมิตรประกันเพื่อช่วยเหลือลูกค้าให้ได้รับความคุ้มครองในภาวะความเสี่ยงแบบนี้ได้ทันท่วงทีด้วยการซื้อผ่าน TQM Insurance Gift ที่ TQM พัฒนาขึ้นเป็นเจ้าแรก ผ่านช่องทางขายดิจิทัลที่ง่ายและ สะดวกแก่ผู้บริโภค
"แม้ว่าในปัจจุบันจะมีผลกระทบมากมายจากการแพร่กระจายของโรคระบาด โควิด-19 เศรษฐกิจทั้งในประเทศ และทั่วโลกมีการชะลอตัว แต่อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้มีความกังวลเนื่องจากบริษัทมีตลาดหลัก 90% จากประกันวินาศภัย เช่น ประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันภัยบ้าน ประกันกลุ่มองค์กร ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องใช้ในทุกสถานการณ์ เราจึงยังมั่นใจว่าในปีนี้จะมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน"นางนภัสนันท์ กล่าว
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 62 บริษัทฯมีรายได้รวม 2,783.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% โดยเป็นรายได้จากการให้บริการ เป็นจำนวน 2,711.5 ล้านบาท และรายได้จากดอกเบี้ยและผลตอบแทนจากเงินลงทุน 72.3 ล้านบาท ภายใต้การบริหารจัดการการทำงานและควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทกำไรเพิ่มสูงขึ้น โดยกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 1,297.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.9 ล้านบาท คิดเป็น 6.9% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 507.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103.0 ล้านบาท คิดเป็น 25.5%