นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ว่า ได้มีการยื่นถอนคดีพิพาทที่มีกับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) แล้ว 16 คดี ส่วน 1 คดี อยู่ระหว่างรออัยการสูงสุดลงนามภายในวันนี้(27 ก.พ.) โดยหลังจากยื่นเรื่องถอนคดีแล้วจะรอศาลมีคำสั่งจึงจะถือว่ามีผลสมบูรณ์
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 63 กทพ.และ BEM ได้มีการลงนามในสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ฉบับแก้ไข) และ สัญญาโครงการทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด (ฉบับแก้ไข) เพื่อยุติข้อพิพาททั้ง 17 คดี ที่มีมูลค่าที่ 58,873 ล้านบาท โดยมีการต่อขยายสัญญาโครงการทางด่วน เป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน โดยสัญญาจะมีผลบังคับใช้ ต่อเมื่อทั้ง กทพ.และ BEM ต้องดำเนินการถอนฟ้องคดี ที่มีต่อกันทั้ง 17 คดี ให้เรียบร้อยก่อน
ด้านนายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ กทพ.กล่าว หากการถอนคดีทั้งหมดยังไม่สมบูรณ์ทันวันที่ 29 ก.พ. 2563 ที่ สัญญา โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 จะสิ้นสุด กทพ.และ BEM ได้มีการหารือร่วมกันถึงวิธีการปฎิบัติตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2563 โดยกทพ.จะดึงเงินรายได้ค่าผ่านทางไว้ก่อน และคืนเมื่อสัญญามีผลบังคับใช้สมบูรณ์ภายหลัง ซึ่งเป็นแนวทางการปฏิบัติ ตามกระบวนการตามกฎหมาย และเพื่อให้การบริหารกิจการทางด่วนไม่มีรอยต่อ และไม่กระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการ