นางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) กล่าวว่า บริษัทคาดรายได้ในช่วงไตรมาส 3 งวดปีบัญชี 62/63 (ม.ค.-มี.ค.63) จะเติบโต 6-8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด) เนื่องจากบริษัททำ Business Continuity Plan เพื่อรับมือกับเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) หลังในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า traffic ภายในศูนย์การค้าลดลง
ทั้งนี้ จากการทำแผนรับมือดังกล่าวหรือการปรับกลยุทธ์การขาย โดยมุ่งเน้นการขายผ่านออนไลน์มากขึ้น ทำให้ยอดขาย 2 เดือนแรกยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เห็นได้จากยอดขายออนไลน์ในช่วงที่ผ่านมาเติบโตถึง 100% จากเดิมที่เติบโตเพียง 40%
ขณะเดียวกัน ก็ประเมินผลกระทบในเดือนมี.ค.นี้ เบื้องต้นคาดส่งผลกระทบประมาณ 3% ของยอดขายรวม หลังพบผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนเพิ่มขึ้น โดยบริษัทจะนำแผนการออกสินค้ารุ่นใหม่ในไตรมาส 4 งวดปี 62/63 (เม.ย.-มิ.ย.63) มาเร่งออกในเดือน มี.ค.นี้ เช่น เสื้อผ้าในคอลเลคชั่น"รีสอร์ท"เพื่อจับลูกค้าในกลุ่มใหม่ๆ และเตรียมออกแคมเปญ "Mc Fair" (แม็คแฟร์) และแคมเปญ "Mc X" (แม็คเอ็กซ์) เพื่อกระตุ้นการขายด้วย
บริษัทยังได้รับผลดีจากการสต๊อกสินค้าไว้ตั้งแต่ไตรมาสก่อนหน้า เพื่อรองรับการจำหน่ายสินค้าในช่วงไตรมาส 3 นี้ อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้รับการช่วยเหลือในการปรับลดค่าเช่าในศูนย์การค้า 2 แห่ง ได้แก่ เทอมินอล 21 และ เทสโก้ โลตัส และอยู่ระหว่างการขอปรับลดค่าเช่าจากศูนย์การค้าเซ็นทรัล ซึ่งจะส่งผลดีกับต้นทุนค่าเช่าลดลงประมาณ 1% หรือคิดเป็น 30-40 ล้านบาทต่อไตรมาส โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวน่าจะลดลงในเดือน ก.พ.นี้ ทันที
พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 62/63 (1 ก.ค.62-31 มิ.ย.63) จะเติบโตที่ประมาณ 8-10% ต่อปี และรักษาอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 14-16% ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา (ก.ค.-ธ.ค.62) บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 1,910.56 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 291.37 ล้านบาท