นายวีรวัฒน์ ขอไพบูลย์ กรรมการ บมจ.ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่(BAT-3K) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอดูราคาตะกั่วในตลาดโลก โดยหากราคาปรับขึ้นไปมากกว่า 3.5 พันเหรียญ/ตันก็จะขอเจรจากับกรมการค้าภายในเพื่อขอปรับขึ้นราคาขายสินค้า เนื่องจากขณะนี้แบตเตอรี่เป็นสินค้าควบคุมราคา และที่ผ่านมาบริษัทได้มีการส่งต้นทุนที่แท้จริงไปให้ทางกรมการค้าภายแล้ว โดยแจ้งไว้ที่ประมาณ 3 พันเหรียญ/ตัน
นายวีรวัฒน์ ยืนยันว่า ในการปรับขึ้นราคาสินค้าในคร้งนี้บริษัทจะพิจารณาอย่างรอบคอบ และในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ราคาตะกั่วได้ปรับขึ้นมาที่ระดับ 3-3.5 พันเหรียญ/ตันแล้ว แต่บริษัทยังรับได้
"ตอนนี้ราคาตะกั่วเริ่มนิ่ง เพราะก่อนหน้านี้ช่วงสิ้นปีราคาตะกั่วเพิ่มขึ้นไปถึง 3.9 พันเหรียญ/ตัน และราคาตะกั่วที่สูงขึ้นมาจาก Hedge Fund ด้วย ส่วนบริษัทจะปรับราคาเพิ่มขึ้นหรือไม่ เราคงขอดูสักระยะ เพราะตอนนี้เรายังสามารถรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ แต่หากมากกว่านี้คงไม่ไหว"นายวีรวัฒน์ กล่าว
ผู้บริหาร BAT-3K กล่าวอีกว่า การที่บริษัทมีโรงหลอมเองสามารถช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบได้ เพราะทำให้บริษัทซื้อวัตถุดิบในราคาต่ำกว่าตลาดประมาณ 10% โดยปัจจุบันกำลังการผลิตของบริษัทอยู่ที่ 3.5 แสนลูก/เดือน และในปีนี้บริษัทยังให้ความสำคัญในการลดต้นทุน
"การลด Cost ทำให้รักษา Gross Profit Margin ไว้ในระดับ 23-28% ใกล้เคียงปีก่อนได้" นายวีรวัฒน์ ระบุ
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทคงไม่มีแผนในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่จะเน้นการสร้างแบรนด์ที่มีอยู่เดิม 7 ชนิด สำหรับงบการตลาดในปีนี้ได้วางไว้ 65 ล้านบาท จะเป็นการเพิ่มร้านค้าอีก 100 แห่ง จากปัจจุบัน 200 แห่ง พร้อมกันนั้นยังจะขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติมในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยจะเป็นการส่งออกแบตเตอรี่ประเภทรถยนต์ ที่ผ่านมาได้เริ่มทำการตลาดและการหาพันธมิตรไว้แล้ว คาดว่าจะส่งสินค้าไปขายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง
นายวีรวัฒน์ ยอมรับว่าปัจจุบันสภาพคล่องของหุ้นไม่ค่อยมี โดยที่ผ่านมาได้มีการคุยกับผู้ถือหุ้นให้ขาย/ลดสัดส่วนลงมา แต่ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ต้องการถือในระยะยาว เพราะหวังผลตอบแทนมากกว่า และที่ผ่านมาบริษัทก็จ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--