ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 153.54 จุดหลังราคาน้ำมันดิบพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 11, 2008 06:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลที่ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ทะยานขึ้นเหนือระดับ 108 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาณที่บ่งชี้ว่าธุรกิจการเงินในสหรัฐกำลังอ่อนแอลงอย่างมาก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 153.54 จุด หรือ 1.29% แตะระดับ 11,740.15 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 20.00 จุด หรือ 1.55% แตะระดับ 1,273.37 และดัชนี Nasdaq ปิดร่วง 43.15 จุด หรือ 1.95% แตะระดับ 2,169.34 จุด
ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.61 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.15 พันล้านหุ้น
ไรอัน เดทริค นักวิเคราะห์จากเชฟเฟอร์ อินเวสท์เมนท์ รีเสิร์ช กล่าวว่า "นักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเผชิญภาวะ Stagflation เนื่องเศรษฐกิจชะลอตัวลงแต่กลับมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 108 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้"
"อย่างไรก็ตาม ผมคาดว่าตลาดจะค่อนข้างทรงตัวในอีก 2-3 วันข้างหน้า จนกว่าจะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 18 มี.ค.นี้" เดทริคแสดงความเห็น
นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มการเงินหลังจากนักวิเคราะห์ของเจฟเฟอร์รีส์ แอนด์ โค ประกาศลดอันดับเครดิตบริษัทธอร์นเบิร์ก มอร์ทเกจ และหลังจากมีรายงานว่าบริษัทคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียลถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐดำเนินการสอบสวนเรื่องการฉ้อโกง
"หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งบดบังปัจจัยบวกของข่าวที่ว่ายอดขายเดือนก.พ.ของบริษัทแมคโดนัลด์แข็งแกร่งเกินคาด การร่วงลงของหุ้นกลุ่มการเงินทำให้นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังมากขึ้นก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้" เดทริคกล่าว
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกในวันพฤหัสบดี และจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ในวันศุกร์ซึ่งข้อมูลทั้ง 2 ด้านนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าผู้บริโภคชาวสหรัฐได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดปล่อยกู้จำนองมากน้อยเพียงใด
ทั้งนี้ หุ้นแมคโดนัลด์พุ่งขึ้น 2.9% หุ้นธอร์นเบิร์ก มอร์ทเกจ ดิ่งลง 60% หุ้นคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ร่วงลง 14% ส่วนหุ้นแบร์ สเติร์นส์ ร่วงลง 11.1% หลังจากถูกมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับลดอันดับเครดิต ซึ่งเป็นผลมาจากข่าวที่ว่าแบร์ สเติร์นส์กำลังประสบปัญหาสภาพคล่องตึงตัว
หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป ดิ่งลง 3.9% ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 5.8%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ