APCO คาดผลงาน Q1/63 โตก้าวกระโดดหลังจับมือพันธมิตรจีนรายใหม่ขายอาหารเสริมต้านไวรัส

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 3, 2020 16:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (APCO) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/63 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาแต่งตั้ง บริษัท สิงคโปร์ อีเกิ้ล โปรฟิท แมเนจเมนต์ พีทีอี จำกัด เป็นผู้แทนจำหน่ายเพียงรายเดียวสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมภายใต้ชื่อ BIM เพื่อช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ชาวจีนในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด -19) โดยบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการขายตรงกับผู้บริโภคในประเทศจีน และอยู่ในธุรกิจ E-Commerce ได้ทำการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ BIM ไปจำนวนหนึ่ง และมีความพอใจในประสิทธิภาพ จึงต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวัน

ทั้งนี้ พันธมิตรจีนรายใหม่ได้มีการวางแผนทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างกว้างขวางผ่าน Influencers ใน Application TikTok ของประเทศจีน ซึ่งมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก และตั้งเป้าหมายที่จะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 30,000 ขวดต่อเดือน ในช่องทาง Dropship ผ่านเครือข่ายของพันธมิตร อีกทั้งมีความสนใจในการขยายตลาดเข้าไปในผู้ป่วยประเภทอื่น เช่น มะเร็ง และ HIV

บริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ของพันธมิตรจีนรายใหม่ดังกล่าวเข้ามาตั้งแต่เดือน มี.ค.นี้ เป็นต้นไป ขณะเดียวกันนอกจากพันธมิตรจีนรายนี้ บริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรจีนเพิ่มอีก 1 รายเพื่อเพิ่มช่องทางการขายในรูปแบบอื่นๆ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในครึ่งปีแรกนี้

"สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย คาดว่าไวรัสจะแพร่กระจายมากขึ้นในระยะหนึ่งเดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้จากประสบการณ์ที่เห็นกันในประเทศจีน ขณะที่ทางพันธมิตรจีนเชื่อว่าสถานการณ์ในประเทศจีนยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจเพราะยังมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากโควิด - 19 เป็นไวรัสตัวใหม่ที่แพร่กระจายเร็วมาก และประชาชนยังมีความเข้าใจในไวรัสตัวนี้ไม่เพียงพอ"นายพิเชษฐ์ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้จะเติบโต 70% จากปีก่อน โดยหลักจะมาจากยอดขายในต่างประเทศที่เติบโตขึ้น โดยเฉพาะการขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมภายใต้ชื่อ BIM ของผู้แทนจำหน่ายข้างต้น คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 50% จากปีก่อนอยู่ที่ 10% ของรายได้รวม

"เราคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตราว 70% จากปีก่อน โดยหลักมาจากการจับมือพันธมิตรจีนรายใหม่ ซึ่งเขามีเป้าหมายที่จะขายผลิตภัณฑ์ของเราประมาณ 360,000 ขวดต่อปี แต่อย่างไรก็ตามปีนี้เราน่าจะรับรู้รายได้จากการขายดังกล่าวเข้ามาในช่วงเดือนมี.ค.63 ถ้าเขาทำได้ก็จะทำให้เรามีรายได้ตามที่เราคาดการณ์ไว้ รวมถึงยังช่วยให้กำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญด้วย เนื่องจากบริษัทไม่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการตลาดเลย"นายพิเชษฐ์ กล่าว

พร้อมกันนี้ บริษัทได้วางงบลงทุนในปีนี้ไม่เกิน 20 ล้านบาท ใช้ซื้อเครื่องจักรใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 200% จากเดิมที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 50,000 ขวดต่อเดือน เพื่อรองรับกับออเดอร์ที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น

นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ส่วนผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS และ มะเร็ง บริษัทฯ ยังคงดำเนินการประสานงานกับพันธมิตรเพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้าไปในประเทศไนจีเรีย, เอธิโอเปีย และประเทศอื่นๆ ที่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ